วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

ความสำเร็จก้าวที่สอง (The Second Step)


พี่เปิ้ล

ได้อ่านบทความเรื่องความคิดเชิงบวกแล้วก็ทำให้คิดถึงวัฒนธรรมองค์กรที่พวกเราตั้งใจร่วมกันว่าจะทำให้เกิดขึ้นจริงในองค์กร หลังจากได้พูดคุยกับพี่ๆน้องๆหลายๆคน พี่ก็ยังมั่นใจว่าพวกเราหลายๆคนยังคงชัดเจนในเป้าหมายของตนเองและยังคงเดินต่อไปตามที่ตั้งใจ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเหนื่อยกับงานในช่วงนี้ประกอบกับข้อมูลที่รับฟังมาจากหลายๆฝ่ายที่ทำให้คิดไปต่างๆนาๆ แต่พี่ก็ยังหวังว่าเราจะใช้ความคิดในเชิงบวกในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มาและร่วมกันสร้างทีมงานของเรากันต่อไป
สภาวะการทำงานรูปแบบนี้คงเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้นและอีกไม่นานพวกทีมงานชาวต่างชาติที่มาช่วย start up โรงงานก็จะทยอยกันกลับเรื่อยๆ พวกเราก็จะได้กลับมาสู่การทำงานในรูปแบบซะที ในช่วงนี้ก็คงต้องอาศัยพวกพี่ๆในการบริหารจัดการงานให้น้องอย่างเหมาะสม รวมถึงการให้ข้อมูลต่างๆกับน้องๆซึ่งบางทีพวกเราคิดว่าเป็นเพียงการเล่าสู่กันฟังแต่พวกน้องๆคิดไปไกลเกินกว่าที่พวกเราคาดไว้เพราะพวกพี่ๆอาจประเมินความสำคัญที่พวกเรามีต่อน้องๆต่ำเกินไป อย่างไรก็ตามพี่ก็ยังยืนยันว่าพี่พร้อมรับผิดชอบในการตัดสินใจอย่างมีหลักการของพวกเราเสมอ ถึงแม้ว่าช่วงนี้ยังตึงเครียดไปบ้างแต่พวกเราก็ยังคงก้าวต่อไปกับความสำเร็จก้าวที่สองคือการ start up โรงงานผลิตไฮโดรเจนเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2554 ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพวกเราเป็นทีมงานที่ดีและพร้อมจะสร้างองค์กรร่วมกัน พี่ขอขอบคุณความทุ่มเทที่พวกเรามีให้ตลอดมารวมถึงต้องขอโทษที่ทำให้พวกเราหงุดหงิดไปบ้างกับการที่พี่ไม่สามารถให้คำสัญญาอะไรกับพวกเราได้มากนักเพราะพี่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในองค์กรได้ แต่พี่ยืนยันถึงความตั้งใจของพี่ในการพัฒนาองค์ความรู้ของพวกเรารวมถึงตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างสวัสดิการพื้นฐานเพื่อให้องค์กรสามารถแข่งขันในตลาดแรงงานได้ และพี่เข้าใจความต้องการพื้นฐานของพวกเราเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังในด้านผลตอบแทนที่พวกเรามีต่อการทุ่มเทในการ start up ฯลฯ ขอให้พวกเรามั่นใจว่าอนาคตต้องพัฒนาไปในทิศทางที่ดีและพวกเรามีโอกาสเติบโตในองค์กรเสมอ
ช่วงนี้พวกพี่กำลังเร่งสอบทบทวนความรู้เพื่อสนับสนุนให้พวกเราก้าวต่อไปตามโครงสร้างที่วางไว้ พี่อยากให้พวกเรามีทัศนคติที่ดีต่อการสอบทบทวนความรู้และเข้าใจวัตถุประสงค์ของการสอบว่าเป็นไปเพื่อความก้าวหน้าของพวกเรา หวังว่าการสอบทบทวนความรู้คงไม่เพิ่มความเครียดให้กับพวกเรานะ ร่วมกันสู้ต่อไปครับ
อ่านบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

จงคิดเชิงบวก (Positive thinking)

By. มิตร ทีม งานหนุ่มไฟแดงๆๆ
เก็บมาฝาก คิดเชิงบวก หมายถึง การรู้จักเปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อสิ่งต่างๆ ซึ่งโดยมากมักแสดงตัวให้เราได้สัมผัสในแง่ลบ แต่พอเราพลิกมุมมองใหม่ เราจะได้อะไรดีๆ จากเรื่องลบๆ เหล่านั้น เช่น ในชีวิตจริงของเราซึ่งทำงานกับคนหมู่มาก มักจะพบกับคำชมและคำด่าอยู่เสมอ ๆ เมื่อแรกเผชิญกับคำชม เราก็ฟู ครั้นพบกับคำด่าก็แฟบ แต่เมื่อเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองต่อคำชมและคำด่า ก็รู้สึกว่า ได้คุณค่าจากคำด่าคำชมเป็นอันมาก
ครั้งหนึ่งมีกบตัวเล็กๆ ฝูงหนึ่งได้มาร่วมกันจัดการแข่งขันเพื่อปีนขึ้นไปบนยอดเสาไฟฟ้า กลุ่มชนชาวกบมากมายมายรอชมและเชียร์การแข่งขันครั้งนี้ การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น พูดอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่มีกบตัวใดจะเชื่อว่า เจ้ากบตัวเล็กๆ เหล่านั้นจะปีนขึ้นไปจนถึงยอดเสาได้หรอก มีเสียงพูดลอยๆมาให้ได้ยินเป็นต้นว่า " เขาไม่มีทางจะขึ้นไปถึงยอดได้หรอกมันยากลำบากขนาดนั้น" หรือ "เขาไม่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จหรอกเสามันสูงขนาดนั้น"เจ้ากบตัวน้อยๆเหล่านั้นก็เริ่มร่วงหล่นลงมาทีละตัว กบบางตัวส่งเสียงร้องตะโกนว่า "มันยากเกินไป ไม่มีใครทำได้หรอก" กบน้อยส่วนใหญ่จึงเริ่มเหนื่อยและยอมแพ้ แต่มีกบตัวหนึ่งซึ่งยังคงปีนอย่างมุ่งมั่น สูงขึ้นและสูงขึ้น เจ้าตัวนี้ไม่มีทางยอมแพ้ และ เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน กบตัวอื่นๆ ต่างยอมแพ้หมด ยกเว้นกบตัวน้อยๆตัวนั้น ด้วยความพยายามสุดกำลัง มันสามารถปีนขึ้นสู่ยอดเสาได้ กบทุกๆตัวอยากรู้จังว่า เจ้ากบตัวเล็กๆตัวนี้มีพลังในการปีนขึ้นไปสู่ยอดเสาอันเป็นเป้าหมายจนประสบความสำเร็จได้อย่างไร? เรื่องกลับกลายเป็นว่า....แท้จริงแล้ว เจ้ากบตัวผู้ชนะนั้นหูหนวก??? ดังนั้น เพื่อเวลาจะทำงานใดๆ ให้ประสบความสำเร็จ บ่อยครั้งเราอาจต้องเป็นเหมือนกบตัวนั้น นั่นคือ ต้องทำตัวเป็นคนหูหนวกเสียบ้าง จงพยายามคิดเชิงบวก ความฝันทั้งหลายที่เรามีเราสามารถทำให้มันเป็นจริงได้ด้วยความพยายามอย่างสุดกำลังและด้วยการ ให้กำลังใจตนเองอยู่เสมอ อย่าคิดมากเวลาที่มีคนคอยบั่นทอนกำลังใจจงบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า "ฉันทำได้" "ฉันจะทำให้สำเร็จ" ถ้าหลับตายังมองเห็นเป้าหมาย ลืมตาย่อมมองเห็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ สุขทุกข์อยู่ ที่ใจ มิใช่หรือ ถ้าใจถือ ก็เป็นทุกข์ ไม่สุกใสถ้าไม่ถือ ก็เป็นสุข ไม่ทุกข์ใจ เราอยากได้ ความสุข หรือทุกข์นา อย่าดูถูก บุญกรรม ว่าทำน้อย จะไม่ต้อย ตามต้อง สนองผลเหมือนตุ่มน้ำ วางหงาย รับสายชล ย่อมเต็มล้น ด้วยอุทก ที่ตกลง อันความดี ทำไว้ กับใครนั้น ไม่มีวัน ลับหาย ในภายหน้ากายอาจเลือน ลับหาย จากสายตา ดีไม่ลา ลับหาย จากสายใจ อันยศศักดิ์ ชื่อเสียง เพียงความฝัน ฝ่ายรูปโฉม โนมพรรณ ฉันบุปผาอันชีวิต เปรียบหมาย เหมือนสายฟ้า อนิจจา ไม่ได้มี จีรังกาล โดย ทีมงานหนุ่มไฟแดงๆๆ
อ่านบทความทั้งหมด