วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การบริหารความสุขในการทำงานด้วย P-D-C-A

By Nick

วันนี้นอนดึกเนื่องจากไปนั่งกินชาเขียวมา นอนไม่หลับตาค้าง แล้วก็นั่งท่องอินเตอร์เนตเข้าเวปประจำ(อีกแล้ว) แล้วก็ไปเจอะบทความเข้า(อีกแล้ว) เลยอยากนำมาแบ่งปัน(อีกแล้ว)

ชีวิตคนทำงานไม่มีใครที่ไม่ต้องการความสุข เพราะความสุขที่เกิดขึ้นเป็นเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงให้พฤติกรรรมคนปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น อันนำไปสู่ผลการปฏิบัติงานตามที่องค์กรต้องการ ดังนั้นความสุขจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนแสวงหา การบริหารความสุขในชีวิตการทำงานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะสังคมไทยในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามา เป็นเหตุให้พนักงานทั้งหลายต้องกล้าเปลี่ยนแปลง กล้าคิดใหม่เพื่อทำให้ตนเองมีความสุข



ทคนิคหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำให้ทุกท่านลองนำไปปฏิบัติ ด้วยการบริหารตนเองให้มีความสุขตามหลักของ P-D-C-A นั่นก็คือ
►Plan
ในการทำงานหากขาดเป้าหมายที่ชัดเจน ทำงานไปวันๆ ย่อมเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พนักงานเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย และความรู้สึกเบื่อนี้เองจะเป็นอันตรายเนื่องจากจะนำไปสู่ผลการทำงานที่ถดถอย หรือเป็นต้นเหตุของการสูญเสียคนดีมีฝีมือ ดังนั้นการวางแผนผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจน (Performance Planning) รู้เป้าหมายว่าในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง และเพื่อทำให้ได้เป้าหมายที่ต้องการ จะต้องแสดงออกหรือมีพฤติกรรมเช่นไรนั้น จะช่วยทำให้เกิดความคิดที่เป็นระบบ ทำงานเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น และเมื่องานที่ได้รับมอบหมายบรรลุผลสำเร็จ ย่อมเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนทำงานเกิดความรู้สึกโล่งอก โล่งใจ ซึ่งความรู้สึกเช่นนี้มักจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดความคิดสิ่งใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อการปรับปรุงงานให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้การวางแผนงานที่ชัดเจนจำเป็นจะต้องมีการจดบันทึกว่าในแต่ละวันงานที่ต้องทำให้สำเร็จมีอะไรบ้าง เพราะแผนงานที่ถูกเขียนขึ้นมาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจึงเป็นเสมือนเข็มทิศหรือเครื่องนำทางให้สามารถทำงานแต่ละชิ้นอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอน
►Do
แผนงานที่ดีย่อมมีการปฏิบัติ การตรวจสอบ การติดตามผลงานที่ทำไปแล้วว่าสำเร็จหรือไม่สำเร็จบ้าง ด้วยการให้ข้อมูลป้อนกลับกับตนเอง (Performance Feedback) ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอผู้อื่นที่จะมาบอกว่างานแต่ละชิ้นคุณเองสามารถทำสำเร็จหรือไม่ การ Feedback กับตนเองก็คือ การหาโอกาสบอกหรือพูดคุยกับตนเองในแต่ละวัน ผมขอแนะนำว่าควรจะเป็นตอนกลางคืนก่อนนอนจะดีกว่า เพื่อสำรวจว่าวันนี้คุณได้ทำงานเสร็จไปกี่อย่างบ้าง และงานใดบ้างที่คุณทำไม่สำเร็จเป็นเพราะเหตุใด เพื่อที่ว่าคุณจะได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นมาวางแผนว่าควรจะทำอย่างไรให้งานชิ้นนั้นประสบผลสำเร็จในวันถัดไป ทั้งนี้ขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับหลาย ๆ คนคิดว่าเป็นขั้นตอนที่ยากกว่าการวางแผนงาน เนื่องจากไม่สามารถทำงานให้บรรลุตามแผนที่กำหนดขึ้น เพราะจิตไม่อยู่กับที่ เกิดความกระวนกระวายใจ จิตไม่สงบ ขาดสมาธิ ซึ่งผมขอแนะนำว่าในระหว่างการทำงานแต่ละอย่างนั้น ควรคิดถึงงานชิ้นนั้นอย่างเดียวทั้งกายและใจ จิตที่มีสมาธิจะทำให้เกิดปัญญาที่จะบริหารงานแต่ละอย่างสำเร็จเร็วกว่าเวลาที่กำหนดขึ้น และเมื่อคุณทำงานสำเร็จ เชื่อแน่ว่าคุณจะรู้สึกภาคภูมใจ รู้สึกมีความสุขกับงานแต่ละอย่างที่สำเร็จลุล่วงไป
►Check
ความสุขเกิดขึ้นจากการให้ ให้ในสิ่งที่ผู้รับได้รับประโยชน์จากงานของคุณ ซึ่งการบริหารความสุขของตนเอง ก็คือการบริหารจิตใจของผู้อื่นด้วยเช่นกัน ดังนั้นตัวคุณเองจะต้องประเมินผลงานที่ทำขึ้นมาว่าผู้รับหรือลูกค้ามีความพึงพอใจกับผลงานแต่ละชิ้นมากน้อยแค่ไหน การประเมินผลงาน (Performance Appraisal) จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ผลักดันให้คุณจะต้องปรับปรุงผลงานของตัวคุณเองอยู่เสมอ ด้วยการวางแผนงานใหม่อีกสักครั้ง หากงานที่ทำไปแล้ว ถึงแม้คุณทำงานได้สำเร็จตามแผนที่กำหนดขึ้น แต่ผู้รับไม่ชอบ ไม่พอใจ คุณจะต้องปรับเปลี่ยนแผนงานใหม่ เพื่อสร้างผลงานให้ลูกค้าหรือผู้รับของคุณเกิดความพึงพอใจทั้งในแง่ของคุณภาพและปริมาณงานที่ส่งมอบ ซึ่งวิธีการประเมินผลงานที่คุณสามารถทำได้และไม่ยุ่งยากก็คือ การสอบถามและพูดคุยกับลูกค้าของคุณว่าเขาชื่นชอบในผลงานที่ทำให้ไปมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้คำว่า “ลูกค้า” นั้นผมไม่ได้มองเพียงแค่ลูกค้าภายนอกอย่างเดียวเท่านั้น ผมจะมองไปถึง ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน คู่ค้า ด้วยเช่นกัน
►Act
การปรับเปลี่ยนกระบวนการ และวิธีการทำงานของคุณว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าไม่พอใจบ้าง เพื่อที่ว่าคุณจะได้หาวิธีการทำอย่างไรก็ตามในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เพราะหากลูกค้ามีความสุข คุณเองย่อมมีความสุขในการทำงานด้วยเช่นกัน การสำรวจและจดบันทึกว่ามีแนวทางไหนบ้างในการปรับเปลี่ยนและพัฒนากระบวนการทำงานของคุณให้ดีขึ้น การพัฒนาผลงานของคุณ (Performance Development) จะทำให้คุณมีการปรับปรุง และการปรับเปลี่ยนตนเองอยู่เสมอ ไม่ซ้ำซากจำเจกับวิธีการทำงานแบบเดิม ๆ เพราะความซ้ำซากทำงานแต่แบบเดิม ๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณเกิดความรู้สึกไม่มีความสุขในการทำงาน

สรุปว่าความสุขในการทำงานทุกวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นการได้รับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นทุกปีเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัวคุณเองเกิดความสุขได้ก็คือ การวางแผน การปฏิบัติ การตรวจสอบ และการปรับปรุง หรือการปฏิบัติตามหลัก
P-D-C-A ซึ่งจะเป็นหนทางให้ตัวคุณเองและคนรอบข้างเกิดความสุขในการทำงาน

Credit: http://www.peoplevalue.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539104744&Ntype=10

32 ความคิดเห็น:

  1. กระบวนการพัฒนาตนเองจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราต้องรู้เป้าหมายของตนเองอย่างชัดเจนและมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายนั้นด้วยทัศนคติเชิงบวก หลายคนตั้งความคาดหวังกับผลตอบแทนซึ่งเป็นผลของการบรรลุเป้าหมายมากกว่าตัวเป้าหมาย และคิดว่าผลตอบแทนนั้นเป็นเป้าหมายที่แท้จริง ทำให้พลาดโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างน่าเสียดาย การทำงานจึงขาดความสุขเพราะมีแต่ความคาดหวังโดยไม่มีความมุ่งมั่น

    ตอบลบ
  2. เยี่ยมครับ

    ตอบลบ
  3. ช่วงนี้เมาอย่างเดี่ยว

    ตอบลบ
  4. ความเห็นของผม การได้รับมอบหมายงานมา ไม่ว่าจะยากแค่ไหนถ้าเราทำสำเร็จเราจะรู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จนั้นๆ ซึ่งเราไม่ต้องคาดหวังว่าจะได้ผลตอบแทนยังไง ขอให้เราสนุกกับงานที่ทำมันจะมีความสุขกับผลงานที่สำเร็จ

    ตอบลบ
  5. สิ่งหนึ่งที่ พี่ๆสอนเสมอคือ เมื่อทำงานเสร็จ Check Check และก็ Check อีกที ข้อนี้จะทำให้ความผิดพลายเราน้อยลง ขอบคุณมากเลยนะครับ

    ตอบลบ
  6. มีการวางแผนที่ดีจัดลำดับความสำคัญจัดเวลาในแต่ละวันให้ชัดเจนแล้วลงมือทำให้บรรลุเป้าหมาย แต่อย่าลืมในการทำงานในแต่ละครั้งต้องSAFETYตัวเองให้มากที่สุด เครื่องจักรเสียหายซ่อมได้แต่ร่างกายเราเสียหายซ่อมไม่ได้นะครับ UNSAFE CONDITION' UNSAFE ACTION อย่าทำ

    ตอบลบ
  7. ขอฝากน้องๆในทีมงาน อย่าหยุดพัฒนาตนเอง การเติบโตในหน้าที่การงานไม่มีที่สิ้นสุดหากคุณมีการพัฒนาทักษะต่างๆอย่างต่อเนื่อง ในบางครั้งคุณอาจคิดว่าคุณมีงานล้นมือ จนทำให้คุณไม่มีเวลาในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆหรือพัฒนาทักษะที่มีอยู่แล้วให้สูงขึ้น อย่าลืมให้เวลากับการวางแผนพัฒนาตนเองอยู่เสมอ แม้บางเวลาอาจรู้สึกท้อถอย แต่หากเรายังมีฝันเราก็ยังมีพลังที่จะทำฝันให้เป็นจริง ปลุกไฟฝันในตัวคุณขึ้นมาอีก เพื่อความสำเร็จที่รอคุณอยู่ ณ ปลายทาง

    ตอบลบ
  8. การวางแผนงานก่อนแล้วค่อยลงมือทำเราจะได้มีเป้าหมายในการทำงานงานจะได้สำเร็จรุร่วงไปด้วยดีส่วนการเช็คก็จะทำให้ไม่เกิดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

    ตอบลบ
  9. สําหรับตัวผมเอง การว่างแผนการทํางานนั้นเป็นสิ่งท่ดีจะได้ทํางานอย่าเป็นระบบแบบแผนท่กําหนดไว้และเป็นระเบียบ

    ตอบลบ
  10. การว่างแผนการทํางาน ในแต่ละวันก็เหมือนการจัดระเบียบ ว่าเราจะทําอะไรก่อน และจะทํางานไม่เหนื่อย

    ตอบลบ
  11. เมื่อมีการวางแผนการทํางานแล้วต้องมีการตรวจสอบ เพื่อป้องกันการผิดผลาดคือ ต้องตรวจสอบให้แน่นใจว่างานนั้นสําเร็จจริง

    ตอบลบ
  12. โดยธรรมชาติของคนเเล้ว จะทำอะไรมักจะมีเป้าหมายอยู่เเล้ว ขึ้นอยู่ว่าจะยากหรือว่าง่าย/สูงหรือว่าตำเท่านั้น
    ข้อคิด จงคิดก่อนทำ อย่าทำก่อนเเล้วคิด
    check check check again

    ตอบลบ
  13. เมื่อเกิดการว่าวแผนงานแล้ว มีการตรวจสอบ เพื่อป้องกันการผิดผลาดเราต้องทําให้เป็นนิสัย เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้ก้าวสู่อนาคต

    ตอบลบ
  14. เป้าหมายสำคัญที่สุด คือ การวางแผนชีวิต การจะทำให้มีอนาคตมีความเป็นอยู่ที่ดี ก็คือ ต้องมีงานทำ และการทำงานนี่แหละเป็นสิ่งสำคัญจะทำงานยังไงให้มีความเป็นมืออาชีพในหน้าที่การงาน จึงจะก้าวหน้าและเป็นที่ยอมรับ ดังนั้น การพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถนั่นแหละที่เรียกว่ามือชีพ

    ตอบลบ
  15. ทีมงาน พลิกแผ่นดิน15 ตุลาคม 2554 เวลา 20:48

    การทำงานหรือแม้แต่การดำเนินชีวิตในแต่ล่ะวันนั้นก็มีการวางแผนอยู่แล้วแต่การทำงานให้มีคุณภาพP-D-C-A คือการจัดการงานที่อาจจะยุ่งยากในแต่ละวันจนส่งผลให้งานน่าเบื่อจนถึงอาจเปลี่ยนงานเลยก็วาได้ ถ้าลองรวบร่วมงานที่ยุ่งยากมาจัดการเข้าระบบ PDCA ผมว่าคงไปได้ดีแน่ๆครับและที่สำคัญอย่างยิ่งบรรยายกาศจากเพื่อนร่วมงานนั้นก็สำคัญนะครับทำให้เราอยากที่จะร่วมทำงานด้วย ผมไม่ใช่คนทำงานเก่งแต่ผมได้อยู่กับทีมงานที่เก่งครับ

    ตอบลบ
  16. ทีมงาน พลิกแผ่นดิน15 ตุลาคม 2554 เวลา 20:50

    ขอนอกเรื่องนิดนึงครับ

    เซ็งครับพี่น้อง Liverpool น่าจะชนะแต่ก็OK.ครับ
    Man u ทำบุญมาเยอะ 5555

    ตอบลบ
  17. P D C A เป็นสิ่งที่ดีแต่คิดว่าถ้าเพิ่ม target ค่า min max เป็นเท่าไรก็จะยิ่งดี และอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ว่าทำไมต้องทำและผลที่ได้จะเป็นอย่างไรยิ่งถ้าเป็นตัวเลขแล้วควรแสดงวิธีคิดด้วยว่ามาได้อย่างไรเพื่อที่ทีมงานจะได้เรียนรู้ถ้าไม่เข้าใจจะได้สอบถามได้ การสื่อสารก็สำคัญถ้ามีเอกสารมาติดบอร์ดก็จะยิ่งดีเพราะสามารถดูได้เลย เช่น routine ในแต่วันที่ต้องทำ การบอกปากต่อปากความหมายอาจเปลี่ยนไปจากเดิมหรือคนที่ส่งงานลืมบอกก็จะทำให้ target ขาดหายไปในบางช่วง

    ตอบลบ
  18. ช้านเองงงงง16 ตุลาคม 2554 เวลา 22:13

    ใช่แล้วครับไม่ว่าเรื่องหน้าที่การงาน เรื่องครอบครัวหรืออีกหลายๆๆเรื่องก็ต้องมีการวางแผนและมีการจัดการที่ดีมิฉินั้นจะไม่สามารถสะกดคำว่า*สำเร็จ*ในชีวิตได้เลยน่ะครับขอให้ทุกคนมีเป้าหมายและมีการจัดการที่ดีๆๆๆน่ะจร้าสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  19. ช้านเองงงงง16 ตุลาคม 2554 เวลา 22:17

    ที่ผลบอลออกมาเสมอนั้นความจริงก็คือ แมนยูไม่อยากทำลายผู้ที่ด่อยกว่าต่างหากเลยจัดชุดเด็กลงจร้าคุงทีมงานถางหญ้า

    ตอบลบ
  20. งานต้องทำรอบครอบถึงจะสำเร็จได้ แต่ผมเจอกับตัวเอง ผมไม่รอบครอบเลยเป็นปัญหา แต่สุดท้ายเราสามารถแก้ไขได้ สุขท้ายต้องทำได้

    ตอบลบ
  21. พออ่านแล้วนึกถึงสมัยเรียน ทำ Project Report Writing นำเทคนิคนี้ไปใช้ดู ช่วยทำให้งานออกมามีปัญหาน้อยกว่าเมื่อก่อนเยอะ ^^

    ตอบลบ
  22. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องสำคัญในการทำงานมากๆไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งไหน เพราะหากการสื่อสารไม่ดีโอกาสในการผิดผลาดก็จะเกิดขึ้นสูง เช่น การพูดด้วยวาจา การพิมพ์ในรูปของเอกสารหรือส่งe-mail ต้องมีความชัดเจนทั้งเรื่องของภาษาที่ใช้และข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่ใช่คิดแล้วแต่ชี้แจงไม่หมด ซึ่งคนรับสารก็ไม่สามารถเข้าทางในได้ การส่งสารบางครั้งต้องใช้ทั้งเอกสารและการอธิบายด้วยเพื่อสร้างความชัดเจนให้มากขึ้นและป้องกันการผิดผลาด ส่วนการรับสารซึ่งบางครั้งคิดว่าเข้าใจแล้วแต่อาจจะคิดไปเองเพราะพื้นฐานคนเราต่างกัน ดังนั้นเมื่อรับสารแล้วทางที่ดีก่อนจะปฏิบัติใดๆถ้าเป็นไปได้ ควรจะทำการยืนยันก่อนว่าที่เราเข้าใจนั้นถูกต้องตรงกันจริงๆ

    ตอบลบ
  23. ขอต่อจากพี่นันท์เลยแล้วกัน
    1.ฉันทะ = พอใจกับงานที่ทำอยู่
    2.วิริยะ = ขยันหมั่นเพียรกับงานที่มี
    3.จิตตะ = เอาใจใส่รับผิดชอบกับงานที่ทำ
    4.วิมังสา = ใคร่ครวญและใช้ปัญญาตรวจสอบงาน

    หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ที่ท่านได้ให้คำเตือนสติพวกเราในการทำงานไว้ว่า “งานคือชีวิต ชีวิตคืองาน บันดาลสุข ทำงานให้สนุก เป็นสุขเมื่อทำงาน”

    ตอบลบ
  24. ขอบคุณคอมเม้นท์ดี ๆ จากพี่แมวนะครับ..

    ผมค่อนข้างจะนับถือแนวคิดหลาย ๆ อย่างในเชิงพุทธครับ จริง ๆ แนวคิดสมัยใหม่หลาย ๆ อย่างในปัจจุบันนั้น ถูกนำเสนอได้อย่างน่าสนใจโดยชาวตะวันตก แต่หากมองย้อนไปแล้วหลักเหล่านี้ล้วนมีแนวทางเดียวกับคำสอนในพุทธศาสนาของเรา

    ธรรมะส่วนที่พี่แมวนำเสนอไปเรียกว่า อิทธิบาท 4 วงจร PDCA เองมีแนวทางการนำเสนอที่อาจต่างออกไป แต่มีใจความสำคัญผูกติดกับอิทธิบาท 4 อันเป็นธรรมมะซึ่งเป็นเครื่องให้บรรลุความสำเร็จ

    ส่วนนึงที่ทำให้การทำงานแตกต่างออกไปในเชิงสร้างสรรค์ นั่นคือ Act ครับ บางครั้งการปรับเปลี่ยนแนวทางบางอย่างเพียงเล็กน้อย อาจสร้างความแตกต่าง และผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก...กว่าวิธีเดิม ผมคิดว่าส่วนนี้เป็นความท้าทายที่มีเข้ามาเสมอในชีวิต

    ตอบลบ
  25. ดีจริงครับแผนการนี้ผมทดลองใช้แล้วเริ่มตั้งแต่ที่กับตัวเรา...มาครอบครัว...การทำงาน..ดีจิงจี้งใช้ได้หมดเลย..อย่าไปคิดมากให้เครียดใช้อย่างมีความสุขดีกว่า

    ตอบลบ
  26. *จงคิดว่าทุกวันที่ไปทำงานคือวันแรกของการทำงานเสมอ

    *จงคิดว่าเราเพิ่งรู้จักคนทุกคนในวันนี้เอง

    *จงคิดว่างานที่ยากในวันนี้จะง่ายมากสำหรับวันพรุ่งนี้

    *จงหาเหตุผลดีๆ ให้ตัวเองทุกวันว่าทำไมเราต้องทำงานที่นี่ต่อไป

    *จงหาเหตุผลดีๆ ให้ตัวเองว่าทำไมเราต้องออกไปทำงานที่อื่น

    *จงมองไปข้างหน้ามากกว่าติดกับปัญหาเมื่อวานหรือวันนี้

    *จงคิดว่างานที่ทำทุกวันนี้คือขั้นบันไดสู่ความสำเร็จ

    *จงคิดว่าเราจะคิดลบกับงานที่ทำ ต่อเมื่อเราลาออกจากงานไปแล้วเท่านั้น

    *จงคิดว่าเราทุกคนในที่ทำงานคือญาติพี่น้องของเรา

    *จงคิดถึงตัวเองให้มากเท่ากับการคิดถึงจิตใจของคนอื่น

    *จงลด ละ เลิก การเก็บสะสมสิ่งที่เป็นลบใส่ตัวเองทุกวัน

    *จงมองหาข้อดีของเพื่อนร่วมงานอย่างน้อยคนละ1 ข้อ

    * จงคิดสิ่งใหม่ทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้ทำสิ่งใหม่ทุกวันก็ตาม

    *จงลืมสิ่งที่ไม่ดีของคนอื่นทุกวัน และจดจำแต่สิ่งที่ดีของเขาไว้

    *จงเลือกที่จะทำงาน แต่อย่าเลือกงานที่จะทำ

    *จงอย่าจำในสิ่งควรลืม แต่อย่าลืมในสิ่งที่ควรจดจำ

    *จงเตือนตัวเองทุกวันว่า.......เราคือมนุษย์เงินเดือนมืออาชีพ

    ตอบลบ
  27. *จงคิดว่าทุกวันที่ไปทำงานคือวันแรกของการทำงานเสมอ

    *จงคิดว่าเราเพิ่งรู้จักคนทุกคนในวันนี้เอง

    *จงคิดว่างานที่ยากในวันนี้จะง่ายมากสำหรับวันพรุ่งนี้

    *จงหาเหตุผลดีๆ ให้ตัวเองทุกวันว่าทำไมเราต้องทำงานที่นี่ต่อไป

    *จงหาเหตุผลดีๆ ให้ตัวเองว่าทำไมเราต้องออกไปทำงานที่อื่น

    *จงมองไปข้างหน้ามากกว่าติดกับปัญหาเมื่อวานหรือวันนี้

    *จงคิดว่างานที่ทำทุกวันนี้คือขั้นบันไดสู่ความสำเร็จ

    *จงคิดว่าเราจะคิดลบกับงานที่ทำ ต่อเมื่อเราลาออกจากงานไปแล้วเท่านั้น

    *จงคิดว่าเราทุกคนในที่ทำงานคือญาติพี่น้องของเรา

    *จงคิดถึงตัวเองให้มากเท่ากับการคิดถึงจิตใจของคนอื่น

    *จงลด ละ เลิก การเก็บสะสมสิ่งที่เป็นลบใส่ตัวเองทุกวัน

    *จงมองหาข้อดีของเพื่อนร่วมงานอย่างน้อยคนละ1 ข้อ

    * จงคิดสิ่งใหม่ทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้ทำสิ่งใหม่ทุกวันก็ตาม

    *จงลืมสิ่งที่ไม่ดีของคนอื่นทุกวัน และจดจำแต่สิ่งที่ดีของเขาไว้

    *จงเลือกที่จะทำงาน แต่อย่าเลือกงานที่จะทำ

    *จงอย่าจำในสิ่งควรลืม แต่อย่าลืมในสิ่งที่ควรจดจำ

    *จงเตือนตัวเองทุกวันว่า.......เราคือมนุษย์เงินเดือนมืออาชีพ

    ด้วยความปราณาดีจากใจมอบให้ทุกคนนะค่ะ

    ตอบลบ
  28. การย้ำคิด ย้ำทำ จะเป็นตัวเตือนสติของเราเสมอ

    ตอบลบ
  29. "คิด ก่อน พูด
    พูด แล้ว ทำ
    ทำ หลัง คิด
    คิด ก่อน ทำ
    ทำ แล้ว พูด
    พูด หลัง คิด"
    (จาก ส.ค.ส. ปีใหม่ 2540 ของในหลวงที่ทรงมอบให้แก่ประชาชนชาวไทย)

    ตอบลบ
  30. ......ไม่ได้เข้ามาทัทายกันซะนาน
    ทราบซึ้งทุก comment ครับ

    ตอบลบ
  31. ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา… จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
    ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ
    *เงินไม่มีขา มันเดินมาหาเราเองไม่ได้ เรามีขา เราจึงต้องเดินไปหามัน*

    ตอบลบ