วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สาเหตุของอุบัติเหตุ (Causes of Accidents)

By Anon 



สาเหตุของอุบัติเหตุ ที่สำคัญมี 3 ประการ ได้แก่
1. สาเหตุที่เกิดจากคน (Human Cause) มีจำนวนสูงที่สุด คือ 89% ของการเกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น การทำงานที่ไม่ถูกต้อง ความพลั้งเผลอ ความประมาท การมีนิสัยชอบเสี่ยงในการทำงาน เป็นต้น
2. สาเหตุที่เกิดจากความผิดพลาดของเครื่องจักร (Mechanical Failure) มีจำนวนเพียง 10% ของการเกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น ส่วนที่เป็นอันตรายของเครื่องจักรที่ไม่มีเครื่องป้องกัน เครื่องจักร เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆชำรุดบกพร่อง รวมถึงการวางผังโรงงานไม่เหมาะสม สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่ปลอดภัย เป็นต้น
3. สาเหตุที่เกิดจากธรรมชาติ (Acts of God) มีจำนวนเพียง 1 % เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ นอกเหนือการควบคุมได้ เช่น พายุ น้ำท่วม ฟ้าผ่า เป็นต้น

ซึ่งเป็นการปฏิวัติแนวคิดเดิมเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุหรือเสริมสร้างความปลอดภัยในโรงงานอย่างสิ้นเชิง เขาได้สรุปสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ เป็น 2 ประการ ได้แก่

1. การกระทำที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Acts) เป็นสาเหตุใหญ่ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุคิดเป็นจำนวน90% ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด เช่น 

1.1 การทำงานไม่ถูกวิธี หรือ ไม่ถูกขั้นตอน
1.2 การมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องเช่นอุบัติเหตุเป็นเรื่องของเคราะห์กรรม แก้ไขป้องกันไม่ได้
1.3 ความไม่เอาใจใส่ในการทำงาน
1.4 ความประมาท พลั้งเผลอ เหม่อลอย
1.5 การมีนิสัยชอบเสี่ยง
1.6 การไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของความปลอดภัยในการทำงาน
1.7 การทำงานโดยไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
1.8 การแต่งการไม่เหมาะสม
1.9 การถอดเครื่องกำบังส่วนอันตรายของเครื่องจักรออกด้วยความรู้สึกรำคาญ ทำงานไม่สะดวก หรือถอดออกเพื่อซ่อมแซมแล้วไม่ใส่คืน
1.10 การใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ไม่เหมาะกับงาน เช่น การใช้ขวดแก้วตอกตะปูแทนการใช้ค้อน
1.11 การหยอกล้อกันระหว่างทำงาน
1.12 การทำงานโดยที่ร่างกายและจิตใจไม่พร้อมหรือผิดปกติ เช่น ไม่สบาย เมาค้าง มีปัญหาครอบครัว ทะเลาะกับแฟน เป็นต้น

2. สภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Condition) เป็นสาเหตุรอง คิดเป็นจำนวน10% เท่านั้น เช่น 

2.1 ส่วนที่เป็นอันตราย(ส่วนที่เคลื่อนไหว) ของเครื่องจักร ไม่มีเครื่องกำบังหรืออุปกรณ์ป้องกันอันตราย 2.2 การวางผังโรงงานที่ไม่ถูกต้อง
2.3 ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยและสกปรกในการจัดเก็บวัสดุสิ่งของ
2.4 พื้นโรงงานขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ
2.5 สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่ถูกสุขอนามัย เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอเสียงดังเกินควร ความร้อนสูง ฝุ่นละออง ไอระเหยของสารเคมีที่เป็นพิษ เป็นต้น
2.6 เครื่องจักรกล เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ชำรุดบกพร่อง ขาดการซ่อมแซมหรือบำรุง รักษาอย่างเหมาะสม
2.7 ระบบไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า ชำรุดบกพร่อง เป็นต้น 

ความสูญเสียจากอุบัติเหตุ การเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้ง ย่อมก่อให้เกิดความสูญเสียมากมาย นอกจากจะเกิดการบาดเจ็บ การเจ็บป่วย หรือเสียชีวิต หรือแม้แต่ทรัพย์สินเสียหาย อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรที่เกิดความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงแล้ว ยังรวมถึงการสูญเสียเวลาในการผลิตที่ต้องหยุดและค่าใช้จ่ายอื่นๆ หรือแม้แต่เสียภาพพจน์ของบริษัทความสูญเสียหรือค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการเกิดอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นอาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้คือ

1. ความสูญเสียทางตรง (Direct Loss) 

หมายถึง จำนวนเงินที่ต้องจ่ายไปอันเกี่ยวเนื่องกับผู้ได้รับบาดเจ็บโดยตรงจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือเป็นค่าเสียหายที่แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด ได้แก่
1.1 ค่ารักษาพยาบาล
1.2 ค่าทดแทนจากการได้รับบาดเจ็บ
1.3 ค่าทำขวัญ
1.4 ค่าทำศพ
1.5 ค่าประกันชีวิต

2. ความสูญเสียทางอ้อม (Indirect Loss) 

หมายถึง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ซึ่งส่วนใหญ่จะคำนวณเป็นตัวเงินได้) นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายทางตรงสำหรับการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้ง ได้แก่

2.1 การสูญเสียเวลาในการทำงานของ
2.1.1 คนงานหรือผู้บาดเจ็บ เพื่อรักษาพยาบาล
2.1.2 คนงานอื่นหรือเพื่อนร่วมงานที่ต้องหยุดชะงักชั่วคราว เนื่องจากช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยการปฐมพยาบาล หรือนำส่งโรงพยาบาล อยากรู้อยากเห็น การวิพากษ์วิจารณ์ ความตื่นตกใจ
2.1.3 หัวหน้างานหรือผู้บังคับบัญชา เนื่องจากช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ สอบสวน หาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ บันทึกและจัดทำรายงานการเกิดอุบัติเหตุ จัดหาคนงานอื่นและฝึกสอนให้เข้าทำงานแทนผู้บาดเจ็บ หาวิธีแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เกิดซ้ำอีก
2.2 ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ ที่ได้รับความเสียหาย
2.3 วัตถุดิบหรือสินค้าที่ได้รับความเสียหายต้องทิ้ง ทำลายหรือขายเป็นเศษ
2.4 ผลผลิตลดลง เนื่องจากกระบวนการผลิตขัดข้อง ต้องหยุดชะงัก
2.5 ค่าสวัสดิการต่างๆของผู้บาดเจ็บ
2.6 ค่าจ้างแรงงานของผู้บาดเจ็บซึ่งโรงงานยังคงต้องจ่ายตามปกติ แม้ว่าผู้บาดเจ็บจะทำงานยังไม่ได้เต็มที่หรือต้องหยุดงาน
2.7 การสูญเสียโอกาสในการทำกำไร เพราะผลผลิตลดลงจากการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต และการเปลี่ยนแปลงความต้องการของตลาด
2.8 ค่าเช่า ค่าไฟฟ้า น้ำประปา และโสหุ้ยต่างๆที่โรงงานยังคงต้องจ่ายตามปกติ แม้ว่าโรงงานจะต้องหยุดหรือปิดกิจการหลายวันในกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
2.9 การเสียชื่อเสียงและภาพพจน์ของโรงงาน นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บจนถึงขั้นพิการหรือทุพพลภาพ จะกลายเป็นภาระของสังคมซึ่งทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วย

ความสูญเสียทางอ้อมจึงมีค่ามหาศาลกว่าความสูญเสียทางตรงมากซึ่งปกติเรามักจะคิดกันไม่ถึง จึงมีผู้เปรียบเทียบว่า ความสูญเสียหรือค่าใช้จ่ายของการเกิดอุบัติเหตุเปรียบเสมือน “ภูเขาน้ำแข็ง” ส่วนที่โผล่พ้นน้ำให้มองเห็นได้มีเพียงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำ

31 ความคิดเห็น:

  1. อุบัติเหตุที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการดื่มสุรา แล้วขับขี่รถเป็นสิ่งที่อันตรายมาก อาจทำให้พิหารหรือเสียชีวิตได้ควรระวังให้ดีคนที่เมาเเล้วขับ

    ตอบลบ
  2. อุบัติเหตุเกิดจากคนมีสภาพร่างกายและจิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ ผู้ที่ร่างกายทรุด
    โทรม เช่น อ่อนเพลีย เหน็ดเหนื่อย เจ็บป่วย หรือผู้ที่มึนเมาจากการดื่มสุราหรือยากระตุ้นประสาท
    เป็นต้น จะมี ผลทําให้ควบคุมสติของตนเองได้ไม่ดี จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ/อุบัติภัยได้

    ตอบลบ
  3. จะถึงเทศกาลปีใหม่แล้วน่ะครับระวังเรื่องเมาแล้วครับน่ะครับอันตรายมากๆ อันตรายทั้งอุบัติเหตุและอันตรายทั้งตำรวจน่ะครับ*ควรจะเมาไม่ขับด้วยความปราถนาดีจากกระผมครับ

    ตอบลบ
  4. อบัติเหตุเกิดขึ้นได้ถ้าเราไม่ประมาทครับ ทำอะไรก็ควรมีสติกับสิ่งที่ทำครับ แล้วอุบัติเหตุก็จะไม่เกิดครับ

    ตอบลบ
  5. ไม่ว่าเราจะทำอะไรเราต้องมีสติกับสิ่งที่เราทำแล้วอุบัติเหตุก็จะไม่เกิด

    ตอบลบ
  6. มีสติและมีความรู้เกี่ยวกับงานที่ทำ ไม่รีบอุบัติเหตุก็ไม่น่าเกิด

    ตอบลบ
  7. ถูกต้องมากๆ เลยครับการทำอะไรก็ตามต้องมีสติเป็นอันดับแรก สำหรับปีใหม่นี้ ขอให้ ปลอดภัยทุกคนครับ

    ตอบลบ
  8. ก่อนเริ่มทำงานทุกครั้งเราต้องเราควรต้องคำนึงถึงอุบัตเหตุที่จะเกิดขึ้นเเละหาวิธีป้องกันก่อนเริ่มปฏิบัติงานทุกครั้ง

    ตอบลบ
  9. ความไม่ประมาทและการมีสติ คงเป็นวิธีง่ายๆที่จะไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เราควรใช้ความระมัดระวังก่อนเริ่มปัฎิบัติงานทุกครั้งนะค๊าบ!!!

    ตอบลบ
  10. พุทธัง ตั้งสติ
    ธัมมัง ตั้งสติ
    สังฆัง ตั้งสติ แล้วจะเกิดผลดีนักแล....

    ตอบลบ
  11. ก่อนทำงานควรใช่อุปกรณ์ให้ครบตามกฏของบริษัท

    ตอบลบ
  12. อุบัติเหตุส่วนใหญ่มักจาเกิดจาคนที่ปฏิบัติงาน โดยมีหลายสาเหตุ ทั้งประมาท ขอดความรู้ความเข้าใจ ไม่มีความรอบคอบ เพราะฉะนั้นเราควรไตร่ตรองคิดให้ดีระมัดระวังก่อนจาทำงาน

    ตอบลบ
  13. Safety First การทำงานต้องตระหนักถึงความปลอดภัยเปนหลักนะครับถ้าเหนว่าเสี่ยงก้อไม่ควรปฏิบัตงานนะครับ ทำงานด้วยความระมัดระวัง

    ตอบลบ
  14. นานนานเอามาเตือนกันที จะได้ไม่ลืมเรี่ืองความปลอดภัยครับ ดีเลยทีเดียว..... ขอบคุณตามิตรครับ

    ตอบลบ
  15. คิดไตร่ตรอง ให้รอบครอบ คิดหน้าคิดหลัง ก่อนเกิดหลังเกิด ผลกระทบทุกครั้ง ก่อนเริ่มทำงาน ต้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่เกิดขึ้นครับ

    ตอบลบ
  16. อบัติเหตุเกิดขึ้นได้ถ้าเราไม่ประมาทครับ และต้องใจเย็นๆ อย่าใจร้อนครับ อุบัติเหตุก็จะไม่เกิด

    ตอบลบ
  17. ก่อนจะทำงานหรือทำอะไรก็ตามเราต้องสติและไม่ประมาณ พร้อม ประเมินความเสี่ยงในงานนั้น.. อุบัติเหตุก็จะเกิดขึ้นน้อยหรือไม่เกิดขึ้นเลย

    ตอบลบ
  18. ตั้งสติ ก่อน start นะครับ

    ตอบลบ
  19. อุบัติเหตุโดยปกติเเล้วส่วนไหญ่จะเกิดจากคน เพราะฉนั้นจะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ ระวังอันตรายที่จะตามมา ทำงานเเล้วกลับบ้านไปหาครอบครัวอย่างปกติสุข

    ตอบลบ
  20. อุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่ใช่เคราะห์กรรม.
    แต่เป็นการกระทำโดยประมาท!!
    ******มีสติ จริงใจ การงานปลอดภัย องค์กรก้าวไกล ชีวิตเป็นสุข
    ชีวิตยังก้าวไกล ความปลอดภัย ต้องมาก่อน
    ปลอดภัยเพื่อชีวิต ทุกขณะจิต อย่าประมาท
    รู้เวลา รักหน้าที่ทำตามกระบวนการทุกวิธี ทำเต็มที่และระวัง
    รู้เวลารักหน้าที่ ปฏิบัติตามกฎวิธี ทำงานเต็มที่เต็มกำลัง
    รู้จักระวัง รู้จักใส่ใจ รู้ความปลอดภัย ในการทำงาน
    ชีวิตจะปลอดภัย ถ้าใส่ใจปฏิบัติตามกฏระเบียบ
    รักษาเวลา รักษาหน้าที่ ชีวิตจะดีถ้าคุณมีวินัย

    ตอบลบ
  21. ปีใหม่2558 นี้ใครเดินทางกลับต่างจังหวัดก็ขอให้เดินทางปลอดภัยแล้วกันครับ

    ตอบลบ
  22. มิตรเฮดเดอร์ไฮเปอร์เรดซิ่ง11 มกราคม 2558 เวลา 17:58

    ไม่รู้ให้ถาม อย่าคิดไปเอง ไม่มั่นใจ อย่าทำ จงมีสติ

    ตอบลบ
  23. การที่จะทำอะไรให้มีสติไตร่ตรองให้รอบเสียก่อนค่อยลงมือทำ ควรมีการประเมินความเสี่ยงก่อนลงมือทำและหาแนวทางแก้ไขไว้ด้วย

    ตอบลบ
  24. อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ถ้าเราไม่ประมาท เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ตามก็ควรที่จะมีสติเป็นที่ตั้งไว้นะครับ

    ตอบลบ
  25. ประเมินความเสี่ยงก่อนลงมือปฏิบัติงานทุกครั้งถ้าเห็นว่าไม่ปลอดภัยควรปรึษากันและหามาตรการมาลดความเสี่ยงเช่นอุปกรณ์ชำรุดควรแจ้งผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานเป็นต้น

    ตอบลบ
  26. สาเหตุหลักๆของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากคน ถ้าคนขาดความตระหนักด้านความปลอดภัย ก่อจะทำใ้หเกิดอุบัติเหตุได้ค่รับ ฉะนั้นเรามี awareness ด้านความปลอดภัยในการทำงานตลอดเวลาครับ

    ตอบลบ
  27. อุบัติเหตุนั้นส่วนมากเกิดจากการขาดสติหรือประมาทไม่คิดและไตร่ตรองให้รอบขอบ คิดทีละเรื่อง จะได้ไม่สับสน

    ตอบลบ
  28. ไม่ว่าเราจะทำอะไรต้องมีการว่างแผนให้รอบขอบ จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ

    ตอบลบ
  29. ส่วนใหญ่มาจากคนขาดความตระหนักในด้านความปลอดภัย ดังนั้นเวลาทำงานควรมีสติ
    คิดวางแผนให้ดีก่อนปฎิบัติงาน

    ตอบลบ
  30. เราควรมีสติในการทำงาน ทำอย่างระมัดระวัง และความเข้าใจในลักษณะงาน ไม่ควรทำอย่างไม่รู้ และทำอย่างตั่งใจ ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ^^

    ตอบลบ
  31. คิดก่อนและวางแผนก่อนทำน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการลดการเกิดอุบัติเหตุได้ครับ

    ตอบลบ