By แซม
หลังจากห่างหายไปสองอาทิตย์เอาเรื่องใหม่ๆมาลงให้แล้วคร๊าบบบ ของใครยังไม่ได้ลงทวงมาบ้างนะครับบางครั้งอาจหลงๆลืมๆไปบ้างของขออภัยด้วยครับ วันนี้ก็ได้รับบทความของแซมมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตดีมีความสุข ลองอ่านหาสาระดูได้ข้างในเลยครับ บอลยูโรกำลังฮิต...ตอนนี้อยากได้บทความเกี่ยวกับบอลยูโรซักเรื่องจริงๆใครจัดมาให้หน่อยเร้วววว!!
ใน แต่ละวันให้นึกถึงความดี และความโชคดีของตนเอง เริ่มต้นด้วยการตื่นนอนตอนเช้า ให้ยิ้มกับตัวเอง และนึกว่าโชคดีที่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ให้นึกถึงความดีของตนเอง ที่เคยทำมาแล้วในอดีต (ที่ สามารถนึกได้ง่ายๆ) เช่น เคยทำบุญ เคยช่วยคนที่อ่อนแอกว่า เคยสงเคราะห์สัตว์ ฯลฯ คิดว่าตัวเองดี และมีคุณค่าที่ได้เคยทำสิ่งดีๆ และให้นึกซ้ำๆ จะได้เกิดความเชื่อตามที่นึกนั้น คุณก็จะเกิดความอิ่มเอิบใจ และเชื่อว่าตัวเองมีความดี ความเก่ง ตามความเป็นจริงในขณะนั้นด้วย คุณจะเกิดความอยากมีชีวิตอยู่ และสร้างสิ่งที่ดีๆ ให้กับชีวิตต่อไป และต้องอวยพรตัวเองเสมอๆ อย่าแช่ง หรือตำหนิตัวเอง และอย่ารอให้คนอื่นมาชื่นชมคุณ ซึ่งมักจะไม่ได้ดั่งใจ หรือได้มาก็ไม่สมใจ
ขั้น นี้คุณจะต้องมองว่า ทุกๆ คน
มีขีดจำกัดของความสามารถ ความดี ความเก่งกันทุกคน ตามความเป็นจริงของเขา ซึ่งไม่เท่ากัน
และไม่เหมือนกันเลย ส่วนความไม่ดี หรือไม่เก่งของเขา (ซึ่ง มีกันทุกคน)
ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาไป ให้มองเฉพาะส่วนที่ดีของเขาเท่านั้น ถ้าคุณทำได้เช่นนี้
คุณก็จะเป็นคนที่มองอนาคต และชีวิตดี มีความหวังที่ดีในชีวิตตลอดเวลา
สองสิ่งนี้ ถ้าคุณทำเป็นนิสัย คุณจะพบว่า โลกนี้มีสิ่งที่ดีๆ
และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ และท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นสุขนิยมทั้งชีวิต
คือ การอยู่กับปัจจุบัน ทำกิจกรรมในวันนี้และเวลานี้ให้ดีที่สุด ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ไม่ทุกข์ร้อน หรือคาดหวังกับผลลัพธ์ของมัน ไม่ว่าจะสมใจ หรือไม่สมใจก็ตาม จงชื่นชมในความตั้งใจ ทำเต็มความสามารถของตนเอง และคิดต่อว่า ในอนาคตจะต้องทำให้ดีกว่านี้ นอกจากนั้น คุณต้องเลิกจดจำ หรือนึกถึงเรื่องที่ไม่ดีที่เกิดกับคุณในอดีต เพราะการจดจำเรื่องราวที่ไม่ดีในอดีต เท่ากับคุณไปสะกิดแผลในใจ และจะทำให้คุณเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น จนส่งผลให้ปัจจุบันคุณไม่มีความสุข และกลัวว่าอนาคตจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีซ้ำๆ อีก
ความ หวัง ความเชื่อ เกิดจากความคิดถึงบ่อยๆ
หรือได้ยินบ่อยๆ จงนึกและบอกกับตัวเองเสมอว่า อนาคตจะดีขึ้นอีกเรื่อยๆ
จะส่งผลให้เกิดกำลังใจมากขึ้น อยากพบเห็นสิ่งต่างๆ
ที่จะเข้ามาในชีวิตโดยไม่กลัว มีอารมณ์ขัน และไม่จริงจังกับชีวิตมากนัก
แต่จะมีความหวังที่ดีๆ ( Good Hope) อยู่เสมอ แต่อย่ามีความคาดหวัง
( Expectation)
กับ
ชีวิต เพราะถ้าคาดหวังกับชีวิต เรามักจะกลัว
หรือกังวลว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ดังความคาดหวัง หรือเมื่อได้มาแล้วก็มักไม่พอใจ
จึงอาจทำให้เกิดทุกข์ได้
1.การ งาน ให้มีความขยัน อดทน
หมั่นหาความรู้ใส่ตัว และกล้าลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ควรทำ
จะทำให้มีการลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตได้เรื่อยๆ และปรากฏเป็นผลงานที่ชัดเจน
2.ครอบ ครัว จะต้องยึดหลักที่เป็นมงคลต่อกันคือ ไม่อิจฉา ไม่ระแวง ไม่แข่งขัน ไม่นอกใจ รู้จักการให้และการอภัย มีน้ำใจ และรู้จักเกรงใจกัน
3.สังคม หมั่นสร้างมิตรเสมอ มีการให้ความสำคัญกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และพูดจากันแบบปิยะวาจา
4.ตน เอง ต้องมีการพัฒนาตนเองเสมอ มีความภูมิใจตนเองตามความเป็นจริง สามารถให้กำลังใจตัวเองได้ และมีกำลังใจที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น
2.ครอบ ครัว จะต้องยึดหลักที่เป็นมงคลต่อกันคือ ไม่อิจฉา ไม่ระแวง ไม่แข่งขัน ไม่นอกใจ รู้จักการให้และการอภัย มีน้ำใจ และรู้จักเกรงใจกัน
3.สังคม หมั่นสร้างมิตรเสมอ มีการให้ความสำคัญกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และพูดจากันแบบปิยะวาจา
4.ตน เอง ต้องมีการพัฒนาตนเองเสมอ มีความภูมิใจตนเองตามความเป็นจริง สามารถให้กำลังใจตัวเองได้ และมีกำลังใจที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น
คิดดี คิดแล้วสบายใจ...
ตอบลบจงชื่นชมในความสุขของคนทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แม้เขาคนนั้นจะเกลียดเราก็ตาม
สัพเพสัตตา...แผ่จิตใจปรารถนาดีออกไปถึงทุกคน ทุกวัน ทุกเวลา
ในอนาคตจะต้องทำให้ดีกว่านี้ ต้องมีการพัฒนาตนเองเสมอ
ตอบลบจะต้องยึดหลักที่เป็นมงคลต่อกันคือ ไม่อิจฉา ไม่ระแวง ไม่แข่งขัน ไม่นอกใจ รู้จักการให้และการอภัย มีน้ำใจ และรู้จักเกรงใจกัน
เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ปัญหาเป็น มีหลักการ มีอุดมการณ์ และมีความเป็นนักวิชาการอยู่ในตนเอง ผู้ที่เป็นนักปฏิบัติคือ ผู้ที่มีความพร้อมในการทำางานหรือลงมือกระทำ
ตอบลบตามความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ และรับผิดชอบทุกขั้นตอนของการทำงาน
บันไดนี้ไม่ใช่ยี่ห้อของเล่นเด็ก แต่เป็นบันไดที่จะก้าว่ผ่านอะไรหลายๆอย่างในชีวิตคล้ายๆกับสะพาน แต่เราจะเลือกก้าวขึ้นไปอีกขั้นหรือลงไปอีกขั้น แต่ผมว่าทุกคนเลือกที่จะก้าวขึ้นตามขั้นบันไดในสายงาน เพราะคงไม่มีใครจะก้าวลงมาหรอก แต่ถ้าเก็บตัวอย่างคงไม่มีคนอยากขึ้นเท่าไรอิๆๆขำๆนะ สุดท้ายไม่ว่าจะบันไดหรือลิตฟ์ก็ตามมันก็จะพาเราไปถึงจุดที่เราฝันได้ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ขอแค่คุณมีความเชื่อว่ามันจะเป็นจริง
ตอบลบอยากได้บันไดเลื้อนอ่ะทำไง
ลบบันไดขั้นที่สอง ทำยากนะ แต่ถ้าทำได้ก็น่าจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข
ตอบลบทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ตอบลบแต่ทำดียังไง กรรม ก็ ไม่รู้มันมาจากไหน เยอะแยะ ไม่รู้จักจบจักสิ้น ซะที
หวังว่ามันจะดี กำลัง จะดี ก็ มีอะไร ๆ เข้ามานักก็ไม่รู้ แล้ว คนเราจะฝืนโชคชตา
อย่างไรดี หละครับพี่น้อง ก็ใช้แวนใช้กรรมต่อไปแล้วกัน แย่จัง ชีวิต.......
บันไดทุกขั้นสำคัญทั้ง อยากจะได้ทุกขั้นต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นที่ 5 ครับ ชัวจ๊ะ
ตอบลบบันไดแต่ล่ะคันมีความสัมคัญ ถ้าทำได้ทุกคันชิวิตคงมีความสุข...
ตอบลบตกลงแบงค์ จะมีกี่คันเนี่ย ช่วยเกาไหมครับ
ลบจะเห็นว่าทุกๆ ขั้นจะรวมยอดอยู่ในขั้นที่ 5 ถ้าเราหยุดสำรวจตัวเองว่าเรายังติดอยู่ที่ขั้นใด ก็ลองปฎิบัติตามดูเผื่อจะทำให้บรรยากาศรอบๆ กายเราดูดีขึ้นอาจทำให้ไม่เบื่อ ไม่แน่อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปก็ได้น๊ะ จะบอกให้
ตอบลบขั้นทุกขั้นสำคัญทั้งนั้นขอให้มีความพยายามเท่านั้น ทั้ง5ขั้นนี้ก็จะมาหาคุณเอง เชื่อไหมละ คิคิ
ตอบลบคงต้องเริ่มทำขั้นที่1ให้สำเร็จก่อน(ไม่งั้นเดี๋ยวจะก้าวไม่ถึงขั้นที่5...อิอิ ^_^)
ตอบลบหลายสิ่ง หลายอย่าง มักเริ่มต้นที่ตัวเราก่อนเป็นสำคัญ คิดดี คิดบวก กับตัวเองก่อนแล้วค่อยแผ่ขยายความคิด ความรู้สึก ที่ดีเหล่านี้ ไปยังสิ่งอื่นและบุคคลรอบข้าง ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกๆวัน มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกมองแบบไหน...
ขอสนับสนุนให้ทุกคนไปให้ถึงบันไดขั้นที่ 5
ตอบลบแล้วพบกันบันไดขั้นที่ 6 นะครับ
พี่นันบันไดขั้นที่6คือ บันไดสู่สรวงสวรรค์หรอครับ
ลบขั้นนี้ขอแจมด้วย K Sunant C.
ลบมองโลกในแง่ดี...
ตอบลบเวลาเราต้องประสบกับปัญหาความล้มเหลวในการทำงาน หรือ เจอข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน หรือ เวลาเพื่อนร่วมงานทำงานผิดพลาด คำพูดนี้จะเป็นเครื่องปลอบใจและให้กำลังใจได้เป็นอย่างดี
คำว่า "ไม่เป็นไร" เป็นคำที่ทำให้จิตใจปล่อยวางจากปัญหา ไม่ถูกบีบคั้นจากปัญหา
คำว่า "เอาใหม่" เป็น คำพูดที่ปลุกคุณธรรมข้อ วิริยะ คือ เพียรสู้งาน ปลุกใจให้เราคิดสู้ปัญหา ไม่ท้อถอย
บันไดขั้นที่ 3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ตอบลบ"ตลอดไป" กำหนดได้ด้วยปัจจุบัน...
ทำวันนี้ ให้ดีที่สุด...
ตอบลบเคล็ดลับของสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ
ก็คือ...การหยุดคร่ำครวญถึงอดีต หยุดกังวลถึงอนาคต
และ...หยุดคาดเดาปัญหาล่วงหน้า
แล้ว...ใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมีสติและจริงจัง
บันไดของเสี่ยแซม ทำให้เราเหมือน "14อีกครั้ง"สุดยอดครับเอาไปยี่สิบ
ตอบลบพี่เสก มาเองเลยหรอ 14 แลจะไม่ไหวแล้วหละต๊ะแก่
ลบทำอะไรแล้วสบายใจทำแล้วมีความสุขก็ทำไปนะครับ ชีวิตก็มีแค่นี้อย่าคิดมาก
ตอบลบถ้ามีลิฟคงดีไม่น้อยจริงๆรวบรัดเลยจะได้มีฟามสุข สบายใจ เร็วๆ
ตอบลบสุดยอดครับ ฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอ
ตอบลบคนจำนวนมากไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกับชีวิต อยากทำอะไร อยากเป็นอะไร
ตอบลบคนเหล่านี้มักปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามยถากรรม มักถูกกระแสสังคมพัดพาไปในทาง
ไม่ดี เป็นเพราะขาดการกำหนดเป้าหมายที่ดี...
คนหาตัวเองให้เจอ...ก็เป็นสุข
ตอบลบคนหรือค้นครับพี่แม๊ว คิคิ
ลบก้าวแรกสำคัญเสมอครับ
ตอบลบคติสอนใจ........
ตอบลบจงทำวันนี้ให้ดีที่สุด ประเดี๋ยวสิ่งดีๆ ก็จะตามมาเอง
ทำในสิ่งที่เชือในสิ่งที่ทำ เป๊นบทความที่ดีมากเลยนะน้อง
ตอบลบก่อนจะก้าวข้ามขั้นขึ้นไปต้องเยียบขั้นเดิมที่ยืนอยู่ให้มั่นคงก่อนช่ายมั๊ยแล้วเราจะก้าวขึ้นไปโดยไม่เซสะดุดลงมาขั้นเดิม
ตอบลบคิดดีทำดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี ช่วยเหลือสังคมฯ ทำจิตใจให้แจ่มใสแล้วสิ่งที่่ดีๆ ก็จะตามมา
ตอบลบทุกข้อที่กล่าวมาหากทุกคนทำได้ คิดว่าน่าจะมีความสุขในการดำเนินชีวิตและความเจริญในหน้าที่การงานนะ
ตอบลบทุกข้อที่กล่าวมาหากทุกคนทำได้น่าจะมีความสุขในการใช้ชีวิตและความเจริญในหน้าที่การงานนะ
ตอบลบต้องมองตัวเองและปรับปรุงตัวเองก่อน ก่อนที่เราจะไปติติงและจะไปให้คนอื่นปรับปรุงในสิ่งที่เราอยากให้เป็น แต่ต้องเข้าใจเสมอว่า ทุกคนล้วนเกิดมาจากต่างสถานที่ ต่างวัย ต่างเวลา การที่จะให้ทุกคนมาอยู่รวมกันโดยไม่มีปัญหานั้น อาจจะเป็นไปได้ยาก ในส่วนนี้เราต้องทำใจยอมรับมัน ส่วนไหนที่หนักได้ก็หนัก ส่วนไหนที่เบาได้เราก็เบา จึงจะทำให้เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ผมเชื่อว่าทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง แต่เหตุผลของตัวเอง อาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้องของคนอื่นเสมอ ถ้าได้อ่านบทความนี้จริงๆจังๆ แล้ว เราจะมองเห็นความปล่อยวาง และการปรับตัวเข้าหากันได้อย่างมีความสุข ครับ
ตอบลบcomentน้องๆแต่ละหัวข้อแล่มๆกันทั้งนั้นเลย พี่จะนำไช้กันบ้างคงไม่สงวนลิขสิทธิ์นะจ๊ะ
ตอบลบมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนทุกคนก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขแล้วคับ
ตอบลบมีความเชื่อมั่นในตัวเอง บันไดกี่ขั้นก็สามารถไปถึงฝั่งฝันได้
ตอบลบมองตัวเองว่าดีและมีค่าทุกวัน ใช่เราต้องมองตนเองให้มีค่าเสมอต่อองค์กร แล้วเติมความมุ่งมั่นและการเรียนรู้เข้าไป เราก็จะสามารถพัฒนาตนเองหรือองค์กรได้ ถ้าเรามองตัวเองไม่มีค่า ก็จะกลายเป็นส่วนเกินไป
ตอบลบการที่จะประสบความสำเร็จนั้น ต้องมีความขยัน ใผ่เรียนรู้ พัฒนาตนเองตลอดเวลา มีความเอาใจใส่งานที่ทำ และต้องแก้ไขและปร้บปรุงในกรณีที่เกิดการผิดผลาด พัฒนาทางด้านความสำพันธ์ ของการทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อให้ไปในจุดหมายเดียวกัน
ตอบลบอีกหนึ่งอย่าง คือการให้เกียรติ เพื่อนร่วมงาน มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ให้ความเคราพพี่ร่วมงาน และปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าเสมอ
ตอบลบบทความนี้ตรงกับตัวอักษรของ ihears เลยครับ....ตัว a เลยครับ attiude ทัศนคติเชิงบวก
ตอบลบการจะก้าวขึ้นในแต่ละขั้นต้องทำอย่างละม่อมเพื่อจะได้ยืนยัดอย่างยืนยง
ตอบลบ