By Thanes
วันนี้อาตมาจะเทศน์เรื่อง “ บุญที่ให้ผลในชาติปัจจุบัน ” คำว่าบุญ แปลแบบไทย ๆ ว่าความดี ความสะอาดแห่งจิต เวลาให้ของแก่พระสงฆ์เรียกว่าทำบุญ ส่วนการทำบุญในพุทธศาสนาเรียกว่าทำบุญ ส่วนการทำบุญในพุทธศาสนามีอยู่ด้วยกันมากมายหลายวิธี แต่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในธรรมะเรียกว่า บุญกริยาวัตถุ 3 ซึ่งประกอบด้วย ทาน ศีล ภาวนา เคยมีคนถามอาตมาว่าเกิดมาเป็นคนยากจนไร้ทรัพย์จะทำบุญอย่างไร
อาตมาก็ตอบเขาไปว่าการทำบุญ ไม่จำเป็นต้องมีทรัพย์สินเงินทอง ก็สามารถที่จะร่วมทำบุญได้ แถมยังประหยัดอีกด้วยนั่นคือ การรักษาศีลและการเจริญภาวนา ซึ่ง 2 อย่างนี้จะได้อานิสงส์ผลบุญมากกว่าการให้ทานเสียอีกเพียงแต่ญาติโยมมองข้ามกันไป โยมมักจะคิดทำบุญแต่การให้เท่านั้นเพราะว่ามันง่ายดีแต่การรักษาศีลและภาวนา ต้องเสียสละเวลาในการปฏิบัติ จึงรู้สึกว่าทำยากกว่า การทำบุญทุกอย่าง โยมต้องเข้าใจด้วยว่าเพียงแต่เราตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะทำบุญเท่านั้น โยมก็ได้กุศลแล้ว แต่บุญที่ได้รับยังเป็นส่วนน้อย ถ้าอยากได้บุญเต็มที่ต้องทำบุญให้ครบ 3 อย่าง
• ทาน คือ การให้ ถ้ามีเงินทองมากก็ทำมาก มีเงินน้อยก็ทำน้อยตามกำลังตนถ้าไม่มีเงินทองใช้แรงกายก็ให้เป็นทานได้
• ศีล พวกท่านทั้งหลายสังเกตหรือไม่ว่าเวลาที่ญาติโยมจะมาทำบุญ ทำไมพระท่านถึงให้พวกญาติโยมรับศีลก่อน เพราะท่านต้องการที่จะทำให้ผู้ให้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ เมื่อทำบุญขณะนั้นก็จะได้รับผลเต็มกำลัง จริงอยู่ที่บางคนไม่อาจถือศีลได้ตลอดเวลา อาจเป็นเพราะหน้าที่การงาน ทำให้ต้องผิดศีล แต่เราก็สามารถที่จะถือศีลได้ในขณะที่เรานอนในเวลากลางคืน และถือได้ครบทั้ง 5 ข้อด้วยเพียงแต่เราอาราธนารับศีลทั้ง 5 ด้วยตนเองที่หน้าพระพุทธรูปที่บ้าน ซึ่งถือว่าเป็นการทำบุญที่ง่ายมากได้รับผลเต็มกำลัง ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ จิตใจเต็มไปด้วยความเมตตากรุณา แต่ถ้าเกิดเราต้องตายในขณะนั้นก็ส่งผลให้เราไปสู่สุคติทันที
• ภาวนาหรือการสวดมนต์ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันว่า การภาวนาสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามาก แต่ความจริงแล้วการสวดมนต์ภาวนา มีประโยชน์อย่างมากมาย เพราะการสวดมนต์ภาวนาเป็นการกล่าวถึงคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ การสวดมนต์ภาวนาด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ และใช้สติพิจารณาเกิดเป็นปัญญา เป็นความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์ภาวนา ทำให้บรรลุไปสู่พระนิพพาน
“ หัวใจของการทำบุญทุกครั้ง ” ขอให้ญาติโยมจงแผ่เมตตา และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลทุกครั้งตามนี้
“ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้นเทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาในส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ ”
บุญที่ทำไปจะส่งผลให้ได้รับบุญในชาติปัจจุบันทันที ไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้ากันหรอกนะจ๊ะ ขอเจริญพร
จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต พรหมรังสี
การทำบุญให้ทานให้ทำตามกำลังทรัพย์และกำลังศรัทธา ไม่ใช้การแข่งขันเพื่อเอาหน้าเอาตา แค่คิดดีทำดีก็ได้บุญแล้ว
ตอบลบสั่งสมบุญไว้เยอะๆนะครับ เพราะนี้คือตั๋วที่จะส่งเราไปนรกหรือสวรรค์นะครับ พุทโธ พุทโธ พุทโธ
ตอบลบวิธีทำบุญ
ตอบลบวิธีการทำบุญในพระพุทธศาสนาเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ในพระไตรปิฎกระบุไว้ 3 อย่าง ได้แก่
ทาน คือการบริจาคทรัพย์สิ่งของแก่ผู้ที่ควรให้
ศีล คือการสำรวมกาย วาจา ใจ ให้สงบเรียบร้อย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น
ภาวนา คือการสวดมนต์ ทำสมาธิ อ่านหนังสือธรรมะ ฯลฯ
คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาทีฆนิกาย ขยายความเพิ่มอีก 7 ประการ ได้แก่
อปจารยะ คือมีความเคารพอ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรม
เวยยาวัจจะ คือการขวนขวายช่วยเหลือในกิจที่ชอบ
ปัตติทานะ คือการอุทิศส่วนบุญต่อผู้อื่น
ปัตตานุโมทนา คือการอนุโมทนาบุญที่ผู้อื่นทำ
ธัมมัสสวนะ คือการฟังธรรม
ธัมมเทสนา คือการแสดงธรรม
ทิฏฐุชุกัมม์ คือการปรับปรุงความคิดเห็นของตนให้ถูกต้อง
จึงรวมเป็น บุญกิริยาวัตถุ 10
อ่านแล้วทำให้นึกถึงตอนผมเด็กๆ ตอนที่ยายผมยังมีชีวิตอยู่คือยายเป็นคนที่ชอบทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ ยายจะคอยบอกว่าการทำบุญเป็นสิ่งดีนะหัดทำไว้บ้างบ้างทีเราไม่ได้ใช้ชาตินี้ อาจจะใช้ชาติหน้าจะมากจะน้อยตามแรงของเรา ทรัพย์ของเรา เพราะไม่ว่าจะทำมากหรือน้อยเท่าไร ก็ได้บุญเท่ากัน และการที่จะได้บุญตามที่เราต้องการนั้นเราต้องทำมาด้วยใจ ใจที่อยากทำจริงๆไม่ใช่ทำตามคนอื่นเขาเพื่อเอาหน้าเอาตา บาปกับบุญเป็นของคู่กัน มารกับเทพก็คู่กัน ดังนั้นเรามิอาจหนีมันได้ นีแหละโลกมนุษย์ ****เกิดมาใช้เวร เกิดมาใช้กรรม**** กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง อาจจะไม่เห็นต่อนี้ แต่จะเห็นตอนหน้า coming zoom ลืมมีคนเคยพูดว่า กรรมติด 3 จีแล้ว เร็วแรงทะลุนรก
ตอบลบทำบุญจะคู่กับทำทานเสมอ
ตอบลบทานคือ การให้, การแบ่งปัน, การเสียสละ, การเอื้อเฟื้อ เพื่อขจัดความตระหนี่ออกจากจิตใจ
การทำบุญทำทานแล้วประฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ช่วยให้จิตใจสงบสุข เพราะผมเคยประฎิบัติมาเพื่อนๆลองปฎิบัติดู
ตอบลบการนั่งสมาธิเป็นประจำสม่ำเสมอ รู้จักปล่อยว่างจิตใจไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งที่ต้องการ ก็จะทำให้เรามีความสุขได้
ตอบลบส่วนมากมนุษย์ จิตใจมีความต้องการ เพราะในใจมีเเต่กิเลส ความอยากได้เป็นที่ตั้ง ได้ก็สุข ไม่ได้ก็ทุกข์เป้าหมายที่เเท้จริงของศาสนาพุทธคือการปล่อยว่างทำจิตให้สงบ คือนิพาน
ตอบลบเคยคิดอยู่เวลาไปวัดทำบุญ ไปให้ทานหรือไปขอทานกันแน่น เพราะเวลาจุดธูปเทียนไห้วพระ คนก็จะเริ่มขอนั้นขอนี้ อยากได้อันนั้น อยากได้อันนี้ สรุปไปวัดสร้างกิเลสหรือเปล่า
ตอบลบการทำบุญในพระพุทธศาสนานั้นมีอยู่ สามทางอันได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา การทำทาน หนึ่งร้อยครั้ง ได้บุญไม่เท่ามีศีลที่บริสุทธิ์ หนึ่งครั้ง การมีศีลที่บริสุทธิ์ หนึ่งร้อยครั้ง ได้บุญไม่เท่าภาวนาจนจิตสงบ หนึ่งครั้ง การภาวนาเป็นบุญใหญ่ที่สุดในการทำบุญทั้งหมด ของเราชาวพุทธ เพราะภาวนาแล้วจะเกิดปัญญา
ตอบลบบุญ คือสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจแล้วทำให้จิตใจใสสะอาด ปราศจากความเศร้าหมองขุ่นมัว ก้าวขึ้นสู่ภูมิที่ดี เกิดขึ้นจากการที่ใจสงบทำให้เลือก คิดเฉพาะสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่เป็นประโยชน์ แล้วพูดดี ทำดี ตามที่คิดนั้น
ตอบลบแต่เห็นที่เป้า ไม่เคยทำบุญเลยโม้ไปเรื่อยอ่ะ
ลบคิดดีทำดี ก็ได้บุญ
ตอบลบคิดไม่ดีทำไม่ดี ก็ไม่ได้บุญ
การทำบุญที่ได้ผลเร็วนั้น เราจะต้องอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื้นก่อน แล้วเราจะได้บุญที่มากกว่าที่เราไม่ได้อุทิศส่วนกุศล ง่ายๆคือเมื่อเราทำบุญแล้วก็กรวดน้ำลงดินแล้วก็กล่าวอุทิศส่วนกุศล ให้แก่เทวดาอารักษ์ ให้แก่ญาติ ให้แก่สัตว์โลกทั้งหลาย เท่านี้เองครับ
ตอบลบและที่ได้มากกว่าการทำบุญ คือการสวดมนต์ นั่งเจริญภาวนา จะได้บุญมากครับ และทำให้จิตใจสงบ เพื่อนๆลองทำดูครับ แรกๆจะนั่งได้ไม่นาน แต่พอนานๆไป ก็จะนั่งได้นานขึ้นเองครับ
การทำบุญ ที่จะให้ได้ผลบุญมากหรือน้อยนั้น มีหลักเกณฑ์อยู่ 3 ประการคือ
ตอบลบ1.ผู้รับ จะต้องเป็นผู้มีศีล มีคุณธรรมความดี แต่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพระสงฆ์ หรือนักบวช จะเป็นคนทั่วไปก็ได้ ถ้าผู้รับดี ผู้ทำก็ได้บุญมาก หากผู้รับไม่ดี ก็อาจจะทำให้เราได้บุญน้อย เพราะเขาอาจอาศัยผลบุญของเรา ไปทำชั่วได้ เช่น ให้เงินช่วยเหลือเพื่อนๆ กลับเอาไปปล่อยกู้ สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เป็นต้น
2.วัตถุสิ่งของที่ให้ต้องบริสุทธิ์หรือได้มาโดยสุจริต เป็นของที่เหมาะและมีประโยชน์ต่อผู้รับ เช่น ให้เสื้อผ้าของเล่นแก่เด็กกำพร้า เป็นต้น ของที่ให้ดีผู้ทำก็ได้บุญมาก หากได้มาโดยทุจริต แม้จะเอาไปทำบุญก็ได้บุญน้อย
3.ผู้ให้ ต้องมีศีลมีธรรมและมีเจตนาที่เป็นบุญกุศลในการทำ จึงจะได้บุญมาก นอกจากนี้ เจตนาหรือจิตใจในขณะทำบุญ ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญกล่าวคือ ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ หากผู้ให้มีความตั้งใจดี ตั้งใจทำ เมื่อทำแล้วก็เบิกบานใจ คิดถึงบุญกุศลที่ได้ทำเมื่อใด จิตใจก็ผ่องใสเมื่อนั้น เช่นนี้ก็จะทำให้ผู้ทำได้บุญมาก ถ้าไม่รู้สึกเช่นนั้น บุญก็ลดน้อยถอยลงตามเจตนา
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่า ใครก็ตามแม้จะไม่มีโอกาส “ให้ทาน” อันเป็นการทำบุญที่ง่าย และเป็นรูปธรรมที่สุด แต่เราทุกคนก็สามารถเลือกทำบุญในลักษณะอื่นๆ ได้อีกถึง 9 วิธี และเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก เช่น การอ่อนน้อมถ่อมตน การช่วยเหลือแนะนำน้องๆ ที่ทำงาน การไม่ถือทิฐิหรือดื้อหัวชนฝา การร่วมยินดีกับการทำบุญของเพื่อน เป็นต้น เพียงแค่นี้ก็เห็นผลทันตาแล้ว คือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้ผู้ใหญ่เมตตาต่อเรา การช่วยเหลือเพื่อนฝูงทำให้ไปไหนเพื่อนๆ ก็รักใคร่ ยินดีต้อนรับ ดังนั้น เริ่มต้นทำ “บุญ” เมื่อใด บุญก็ส่งให้เห็น “ผล”เ มื่อนั้น
การทำบุญมีด้วยกัน 10 วิธี เรียกว่า “บุญกิริยาวัตถุ 10” หรือ สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ 10 ประการ ได้แก่
ตอบลบ1. ให้ทาน
2. รักษาศีล
3. เจริญภาวนา หรือภาวนามัย
4. การอ่อนน้อมถ่อมตน หรือ อปจายนมัย
5. การช่วยขวนขวายทำในกิจที่ชอบ หรือไวยาวัจจมัย พูดง่ายๆ ว่า เป็นการให้ความช่วยเหลือแก่สังคมรอบข้าง
6. การให้ผู้อื่นมาร่วมทำบุญกับเรา หรือ ปัตติทานมัย
7. การอนุโมทนาส่วนบุญ หรือ ปัตตานุโมทนามัย คือ การยอมรับหรือยินดีในการทำความดีหรือทำบุญของผู้อื่น
8. การฟังธรรม หรือ ธรรมสวนมัย การฟังธรรม จะทำให้เราได้ฟังเรื่องที่ดี มีประโยชน์ทั้งต่อสติปัญญา และการดำเนินชีวิต
9. การแสดงธรรม หรือ ธรรมเทศนามัย คือการให้ธรรมะหรือข้อคิดที่ดีๆ แก่ผู้อื่น
10. การทำความเห็นให้ถูกต้อง เหมาะสม หรือ ทิฏฐุชุกรรม คือ การไม่ถือทิฐิ เอาแต่ความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่
นั่งสมาธิ ภาวนา ทำให้จิตใจสงบ ได้บุญสูงสุดครับ
ตอบลบใครกินคนนั้นก็อิ่มไม่กินก็ไม่อิ่มเหมือนกับการทำบุญใครทำใครได้ไม่สามารถทำให้กันได้ ถ้าใครเชื่อเรื่องบุญส่งผลก็รีบทำนะก่อนที่จะไม่มีโอกาศที่จะได้ทำเพราะชีวิตนั้นสั้นนัก
ตอบลบทำไมคนเกิดมาทั้งที่เป็นพี่น้องกันยังไม่เหมือนกันเลยนั้นคงเป็นเพราะผลบุญที่ทำมาต่างกันเขาเรียกว่าบุญส่งผลทุกคนเกิดมามีบุญมีกรรมทั้งนั้นแต่สิ่งไหนจะมีมากกว่ากัน
ตอบลบบุญเป็นคำสั้นอ่านง่ายทำง่ายได้ดีด้วย บาปเป็นคำสั้นอ่านง่ายทำง่ายได้ติดตัวง่าย ดังนั้นสิ่งที่ง่าย ทำง่ายจงเลือกเอาว่าจะทำบุญหรือทำบาป ตามกำลังของท่านแล้วแต่จิตศรัทธา สาธุ..
ตอบลบการให้ เป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้ารู้จักให้คนอื่นก่อน ก็จะมีคนอื่นให้ตอบ
ตอบลบให้ในที่นี้ไม่ไช่เป็นการให้เงินให้ทองอย่างเดียว ให้ใจ ให้ความปราถนาดี ให้คววามปราณี ให้ความช่วยเหลือโดยที่เราไม่เดือดร้อนก็ให้ไปเถอะ เมื่อเราให้ไปแล้วก็จะเกิดความสุขเเก่ใจเราเอง
การรู้จักให้เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเราให้กับคนอื่นก่อน ก็มักจะได้รับการให้จากผู้อื่นตามมาเสมอ
ตอบลบการให้ในที่นี้ไม่ไช่เป็นการให้ทรัพย์สินเงินทอง การให้ใจก็เป็นสิ่งสำคัญไม่เเพ้กัน
ทำบุญกับวัดในชนบทผมว่าได้ทั้งบุญและความอิ่มอกอิ่มใจซึ่งในบางครั้งวัดในชนบทยังขาดแคลนสิ่งของอีกมากเช่น ถ้วยชามหรือช้อนยังใช้เป็นแบบสังกะสีอยู่เลย
ตอบลบเห็นด้วยอย่างแรง...
ลบวัดที่ว่านี้จะไปทำเมื่อไหร่พี่...ขอร่วมทำบุญด้วยจ้า
เห็นด้วยครับพี่ ว่าแล้วจัดทีม Building ซักรอบมั้ยครับพี่ผมจะร่วมทำบุญด้วย
ลบการให้ ที่ยิ่งใหญ่และได้บุญกุศลเยอะที่สุดคือการ ให้อภัย
ตอบลบทำบุญควรจะทำให้ครบวงจร อย่างที่บทความนี้บอกเอาไว้
ตอบลบเพราะการทำบุญให้ทาน รักษาศีล คงยังไม่พอจะต้องเจริญจิตตภาวนาด้วย เพราะใครก็ตามที่สามารถฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ต้องเกิดจากการฝึกฝนอบรมจิตมาเป็นอย่างดี และจิตที่ฝึกมาดีจะทำให้มีความสุขเสมอ
คำว่าบุญ แปลแบบไทย ๆ ว่าความดี ความสะอาดแห่งจิต
ตอบลบ...ทำบุญแค่ความคิดดีๆ เท่านี้ก็ได้บุญแล้วครับ หมั่นทำบุญทำให้จิตใจสงบครับพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ
ตอบลบอยากลองนั่งสมาธิดูบ้าง...ใครพอจะแนะนำให้ได้มั่งครับ
ตอบลบขอกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทำในชาตินี้ ดลจิตดลใจให้ทุกท่านทุกคนมีแต่ความสุขเทิด...
ตอบลบ-การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์ จึงทำได้ยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
ตอบลบ-คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข
พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...
การทำบุญนั้นมีหลายรูปแบบหลายลักษระขึ้นอยูกับว่าเราจาเลือกทำแบบไหนจะได้บุญมาน้ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องใจของเรา....
ตอบลบเราเป็นชาวพุทธ การทำบุญให้ถูกวิธีนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะส่งผลให้ผู้ที่ทำได้รับผลนั้น มีประโยชน์มากเลยครับ
ตอบลบการทำบุญอีกทางเลือกหนึ่งคือ การรักษาศีล5 คับ นี่แหละคือสิ่งดีๆที่ใกล้ตัวเรา
ตอบลบทำดีได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่ว จงทำแต่ความดีกันทุกคนนะครับ
ตอบลบการคิดดีทำดีถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง โดยที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ทำแล้วสุขใจครับ
ตอบลบถ้าเราทำได้เรื่อง ทาน ศิล ภาวนา เรื่องภาวนาวันหนึ่งทำได้สัก 10นาทีก็ได้บุญแล้ว
ตอบลบการบุญทำกุศลมีหลายหลายทางหลายวิธีไม่จำเป็นต้องเข้าวัดก็ได้แค่ รักษาศีล 5 ได้ก็ถือว่าเป็นบุญกุศลมากมาย
ตอบลบ