วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ใครจะไป work with iHears ยกมือขึ้น




เรื่องนี้ดูค่อนข้างจะบีบคั้นจิตใจของผู้ที่มีส่วนได้เสียต่อผลการคัดเลือกดังกล่าว และก็มักจะมีคำถามจากพนักงาน (ที่เปิดใจ) เสมอว่า พี่มีหลักเกณฑ์การพิจารณาความเหมาะสมของพนักงานที่จะไปทำงานที่โรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไร

คำถามนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจ โดยส่วนตัวแล้ว ต้องบอกว่าลำบากใจที่ในท้ายที่สุดต้องตัดสินใจว่าใครอยู่ที่เดิม ใครไปที่ใหม่ จึงคิดว่าทำอย่างไรจึงจะสื่อสารเกณฑ์การตัดสินใจในเรื่องนี้ให้ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรมที่สุด เพื่อให้พนักงานแต่ละคนพัฒนาตนเองตามหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนตั้งแต่แรก ซึ่งในท้ายที่สุดระบบจะเป็นแค่เครื่องมือที่สนับสนุนเกณฑ์มาตรฐานดังกล่าว แต่ความมุ่งมั่นและความพยายามของพนักงานแต่ละคนต่างหากที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนสู่เป้าหมายที่พนักงานแต่ละคนตั้งไว้ หรือ กล่าวให้ง่ายต่อความเข้าใจคือ ใครจะอยู่ที่เดิมหรือไปที่ใหม่นั้น พนักงานเป็นคนเลือกอย่างแท้จริง

ความสมดุลระหว่าง การพัฒนาองค์ความรู้ และ จิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กร (iHears) เป็นสิ่งสำคัญในการอธิบายหลักเกณฑ์มาตรฐานข้างต้น ในท้ายที่สุด ผลของการฝึกอบรมจะแบ่งพวกเราออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้


กลุ่มที่ 1 : พนักงานที่มีการพัฒนาองค์ความรู้สูง และ จิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรสูง
กลุ่มที่ 2 : พนักงานที่มีการพัฒนาองค์ความรู้สูง แต่ จิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรต่ำ
กลุ่มที่ 3 : พนักงานที่มีการพัฒนาองค์ความรู้ต่ำ แต่ จิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรสูง
กลุ่มที่ 4 : พนักงานที่มีการพัฒนาองค์ความรู้ต่ำ และ จิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรต่ำ

จากการแบ่งกลุ่มจะเห็นได้ว่า ระบบการฝึกอบรมที่จัดทำมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาองค์ความรู้ของพนักงาน พร้อมๆไปกับการเสริมสร้างจิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กร เปรียบองค์ความรู้ได้กับ Hardware และวัฒนธรรมองค์กร คือ Software ที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง

ความคาดหวังจากการฝึกอบรมคือการพัฒนาองค์ความรู้ของพนักงานให้อยู่ในระดับมาตรฐานเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยจิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรที่สูง ซึ่งได้แก่พนักงานในกลุ่มที่ 1 นั่นเอง

นอกจากพนักงานต้องมีองค์ความรู้พื้นฐานอยู่ในระดับมาตรฐานเป็นองค์ประกอบแล้ว จิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่องค์กรพิจารณาเลือกบุคลากรที่เหมาะสมไปทำงานที่โรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกดังกล่าว จากการแบ่งกลุ่มพนักงานข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าถึงแม้พนักงานจะมีองค์ความรู้ที่สูงจากการฝึกอบรม แต่มีจิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรต่ำ (กลุ่ม 2) พนักงานในกลุ่มนี้ก็ยังไม่เหมาะกับความต้องการองค์กรใหม่

การตรวจวัดระดับจิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรนั้น ดูเหมือนกับเป็นเรื่องนามธรรมที่ตรวจวัดได้ยาก ดังนั้นจึงต้องอาศัยการทำงานใกล้ชิดระหว่างหัวหน้างานกับพนักงาน เพื่อพัฒนาบรรยากาศในการทำงานที่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติได้อย่างเปิดเผย ตัวอย่างเช่น การทำ Blog นี้ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะสื่อสารแนวความคิดนี้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการกล้าพูดคุยและนำเสนอระหว่างการฝึกอบรม ถ้าพนักงานต้องการบรรยากาศการทำงานแบบพี่น้อง แต่ไม่กล้าแม้แต่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็แสดงว่าพนักงานนั้นยังไม่มีจิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กร iHears อย่างดีพอ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เก็บอยู่ในใจหรือแค่พูดก็พอ หลักการของวัฒนธรรมองค์กร iHears คือ ถ้าไม่แสดงออกหรือปฏิบัติจริง ก็ไม่สามารถปลูกฝังให้อยู่ในจิตสำนึกของตนเองได้

คนที่มีบุคลิคเงียบ ไม่กล้าแสดงออกก็อาจจะโต้แย้งในใจว่า ผมก็มีจิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กรครับ แต่ผมเป็นคนเงียบๆ อย่างนี้ผมก็แย่สิครับ

พวกเราต้องมีความชัดเจนว่าเรามาทำงานเพื่อพัฒนาตนเองในทุกๆด้าน ดังนั้นบุคลิคภาพที่ต้องการในการทำงานนั้นต้องแยกออกจากบุคลิคภาพส่วนตัว ถ้าเรายังทำได้ไม่ดีนั้นเป็นเพียงเพราะเราไม่ให้โอกาสตนเองเพื่อเติบโต และ วัฒนธรรมองค์กร iHears นั้นยังไม่ถูกปลูกฝังให้อยู่ในจิตสำนึกของเรา อย่าลืมว่าโรงงานใหม่นั้นเน้นนวัตกรรมเชิงความคิด (คือตัวอักษร i ใน iHears) ถ้าเราไม่สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของตนเองได้ เราก็จะลำบากในการทำงานที่มีบรรยากาศที่พวกเราคาดหวังร่วมกันครับ

ดังนั้นการตอบสนองของพนักงานในการแสดงความคิดเห็นและติดตามแนวคิดขององค์กรอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการนั้น จะทำให้หัวหน้างานรวมถึงเพื่อนร่วมงานประเมินศักยภาพเชิงความคิดและจิตสำนึกต่อวัฒนธรรมองค์กรของพนักงานนั้นๆได้

ถึงตรงนี้ พวกเราคงมีความเข้าใจในหลักเกณฑ์การพิจารณา และ คงต้องย้อนกลับไปประเมินตนเองว่าที่ผ่านมาเราได้พยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนาองค์ความรู้ของตนเองมากน้อยแค่ไหน และ ได้แสดงให้เพื่อนร่วมงานเห็นว่าเรานั้นปฏิบัติตามวัฒนธรรมองค์กร iHears จนกลายเป็นจิตสำนึกของเรา ดังคำกล่าวของเราที่ว่า work with iHears หรือไม่

ต่อไปพี่คงต้องถามพวกเราว่า ใครจะไป work with iHears บ้างครับ

13 ความคิดเห็น:

  1. ไปด้วยคนนะครับ รถที่เต็มไปด้วยฝัน แวะมารับด้วยคน อิอิ

    ตอบลบ
  2. งานนี้ไม่พลาดแน่ครับ ขอจองตั๋ว 1 ใบครับ

    ตอบลบ
  3. ไ ป ด้ ว ย ค น ค รั บ >>>>อ ย า ก ไ ป ๆ <<<< 0/ จ อ ง ตั๋ ว ใ บ นึ ง

    ตอบลบ
  4. อยากทำตรงนี้ให้ดีที่สุด แต่ต่อไปจะเป็นยังไงมันก้อเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้

    คืนนี้หลับฝันดีนะ "เพื่อนร่วมทาง" ทุกคน รักนะ จุ๊บ จุ๊บ... ไม่ฮา

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ2 สิงหาคม 2553 เวลา 21:24

    พออ่านดูแล้วช่างถูกใจจิงๆ นึกถึงตอนมาสมัครงานยังไงก็ไม่รู้

    ไปด้วยคน! (รอด้วยโซ่ตกอ่ะ) ^_^"

    ตอบลบ
  6. การพัฒนาองค์ความรู้ควบคู่ไปกับจิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กร เป็นสิ่งสำคัญครับ....ส่วนตัวผมมองเรื่องนี้คล้าย ๆ กับจักรยานเหมือนกัน (ขอบคุณที่โซ่ตก...ช่วยเตือน.... ^_^')

    องค์ความรู้เหมือน ล้อหลังจักรยาน...เป็นตัวส่งกำลังในการขับเคลื่อน ซึ่งเป็นพื้นฐานความรู้ในการปฏิบัติ

    จิตสำนึกในวัฒนธรรมองค์กร...เหมือนล้อหน้า เปรียบเสมือนตัวบังคับให้เราทำงานไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง มีประสิทธิผล และมีความยั่งยืน.....

    'May the force be with you'.....ขอพลังสถิตย์อยู่กับท่าน...

    ตอบลบ
  7. เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว

    เดินหมากรุกยังต้องคิด

    เดินหมากชีวิต ...........จะไม่คิดได้อย่างไร



    ....คงต้องตั้งใจไปในทุกๆวัน...ศัตรูที่แท้จริงคือตัวเราเอง

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ8 สิงหาคม 2553 เวลา 18:02

    Big test ผ่านไปก็คงรู้ว่าใครเป็นไงบ้างก็อยากให้ทุกคนมองในแง่บวกเข้าไว้นะครับ
    มันก็ได้ชี้ว่าเราต้องปรับตรงไหนกันบ้าง......เรายังมีเวลาที่จะเรียนรู้อีกเยอะครับ
    ขอให้ทุกคนตั้งใจกับสิ่งที่ตัวเองหวังไว้นะครับ

    ตอบลบ
  9. การทำสิ่งดีๆไม่ต้องมีใครมาบังครับหรอกครับ เราควรช่วยกันสร้างสิ่งที่เราตั้งความหวังให้สำเร็จไปด้วยกันดีกว่าครับผม

    ตอบลบ
  10. บางสิ่งบางอย่างเราไม่ต้องแสดงออกแต่ขอให้เราตั้งใจทำมันผลนั้นจะถึงเราเองสักวันแล้วในที่สุดก็จะประสบณ์ผลสำเร็จเองโดยที่เราคาดหวัง

    ตอบลบ
  11. ผมคิดว่าเราจะได้ไปหรีอไม่ได้ไป ขึ้นอยู่กับตัวของเราเองตัวเราเองเป็นตัวกำหนดว่าเราจะได้ไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเราถ้าเราตั้งใจก็ได้ไปเพราะสุดท้ายผลของความตั้งใจเราคงได้ไป สู้ต่อไปซาโตชิ .....

    ตอบลบ
  12. ความรู้ความสามารถของคนแต่ละคนไม่เท่ากันแต่ถ้าเราขยันความสำเร็จที่เราคาดหวังไว้ก็จะมาตอบแทนกับตัวเราเองถ้าเราไม่ระทิ้งต่อความพยายามของตัวเรา

    ชิมิชิมิ 5555 ไม่ฮาอะดิ เซงเลย

    ตอบลบ
  13. การพัฒนาองค์ความรู้กับจิตสำนึกในวํฒนธรรมในองค์กร
    ได้วางไว้เป็นแนวทางเพื่อให้เราได้ร่วมสร้างทางเดินไปในทางเดียวกัน
    ถ้าเราเชื่อมั่นและได้เดินตามเส้นทางของเรา(ด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธา)
    ในท้ายสุดเราก็จะไปถึงจุดหมายร่วมกัน

    ปล. รอด้วยนะ..กำลังตามไปอยู่


    จะพยายาม..ตามให้ทันแต่อาจจะไปถึงช้าหน่อยนะ

    ตอบลบ