By Wasanporn
คนเป็นโรคเบาหวาน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบาหวานชนิดที่ 1 ที่เป็นเบาหวานตั้งแต่อายุยังน้อย) จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเป็นโรคแทรกซ้อน? ไม่จำเป็นเลยค่ะ มีคนจำนวนน้อย(!?) ที่เป็นโรคเบาหวานแล้วสามารถดูแลตัวเองเป็นอย่างดีจนไม่มีโรคแทรกซ้อนใดๆ และมีคนจำนวนมากมายมหาศาลที่เป็นโรคเบาหวานแล้วมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นตามมา สาเหตุที่คนเป็นโรคเบาหวานจำนวนมากมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น เพราะไม่สามารถรักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ได้ การที่ปล่อยให้ระดับน้ำตาลสูง หรือต่ำกว่าเกณฑ์จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเป็นเบาหวานส่วนใหญ่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคแทรกซ้อนที่มีสาเหตุมาจากโรคเบาหวาน
จากภาพที่ลักข์ทำขึ้นมา ลักข์แบ่งระดับน้ำตาลเป็นโซนต่างๆ
โซนสีเขียว คือ ระดับน้ำตาลที่ปลอดภัย หากเราสามารถรักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์นี้ไว้ตลอด ชีวิตย่อมปลอดภัยจากโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดจากโรคเบาหวานอย่างแน่นอน
โซนสีเหลือ คือ ระดับน้ำตาลที่เริ่มไม่ปลอดภัย หากทิ้งไว้นานก็จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้
โซนสีแดง คือ ระดับน้ำตาลที่เป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในร่างกาย หรืออาจจะทำให้ถึงแก่่ชีวิตได้ การที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์โดยปล่อยให้ระดับน้ำตาลสูงเกินกว่าเกณฑ์เป็นระยะเวลานานหลายปี จะส่งผลต่อระบบหลอดเลือดภายในร่างกายอย่างแน่นอน ซึ่งผลสุดท้ายจะส่งผลต่ออวัยวะสำคัญ ทำให้ตาบอดได้ ทำให้หัวใจมีปัญหาได้ ทำให้ไตวายได้ ทำให้ระบบปลายประสาทไม่มีความรู้สึกได้ (ระดับน้ำตาลสูงอย่างรุนแรงจะทำให้เลือดเป็นกรด เหนื่อยหอบ หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ระดับความผิดปกติของเกลือแร่ในเลือดที่ชื่อว่าโปแตสเซียม สามารถจะทำให้หัวใจหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้)
ส่วนการที่ปล่อยให้ระดับน้ำตาลต่ำกว่าเกณฑ์อยู่เสมอ นอกจากจะทำให้เรามึนงง หมดสติ หรืออาจจะทำให้เสียชีวิตได้ (ระดับน้ำตาลต่ำแบบรุนแรงสามารถส่งผลให้หมดสติ และหากไม่ได้รับการช่วงเหลือได้ทันท่วงทีระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำจนถึงขั้นเสียชีวิตได้)
แล้วเราคนที่เป็นโรคเบาหวานจะดูแลตัวเองยังไงดี ที่จะทำให้ระดับน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ได้ มีชีวิตอยู่กับเบาหวานอย่างมีความสุขได้ โดยไม่มีโรคแทรกซ้อน?
การจะมีชีวิตอยู่กับโรคเบาหวานให้ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยจากโรคแทรกซ้อนจำเป็นที่ต้องศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน ต้องรู้ระดับน้ำตาลของตัวเองให้ได้อย่างจริงจัง จนสามารถที่จะยอมรับว่าเบาหวานคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราจะต้องดูแลตลอดไป
ถ้าเรามีวิธีคิดและความรู้ความเชื่อเช่นนี้ เราก็จะเป็นเบาหวานได้อย่างปลอดภับโดยปราศจากโรคแทรกซ้อนอย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน คือ
1. โรคเบาหวานเป็นโรคที่รักษาได้ ควบคุมได้ แต่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ ไม่ว่าจะไปหาหมอผี กินยาผีบอก จ่ายเงินให้กับคนที่มาหลอกสักแค่ไหนก็ตาม โรคเบาหวานก็จะอยู่กับเราเสมอ เพราะฉะนั้นแม้ว่าเราจะควบคุมได้ แต่ถ้าเราเผลอไม่ดูแล ระดับน้ำตาลก็พร้อมที่จะสูงขึ้นมาทุกเมือ นอกจากไม่ควรเชื่อหมอเถื่อนหมอผีแล้ว การรักษากับบุคคลากรทางการแพทย์ การไปพบแพทย์ตามนัดหมาย จึงเป็นเรื่องสำคัญ (สถานที่ไหนสามารถรักษาเบาหวานโดยไม่มีการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เชื่อถือไม่ได้นะคะ) การไปพบแพทย์นั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องประจำทุกๆ 2 เดือน(อย่างมากแล้ว) แต่ถ้าเราดูแลตัวเองได้ดี เราก็จะได้ใบนัดแบบทุกๆ 3 หรือ 4 เดือน ซึ่งเท่ากับปีละ 3-6 วันจาก 365 วันเป็นอย่างมาก การไปพบแพทย์ก็เพื่อตัวเราเองนะคะ อย่าถือว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อเลยนะคะ
2. ยาที่คุณหมอให้นั้น ไม่ส่งผลทำลายหรือทำร้ายตับไตหรอกค่ะ ยารักษาที่นำมาใช้นั้นผ่านการค้นคว้าวิจัยมาอย่างดีแล้ว หากมีการค้นพบว่าตัวยามีปัญหายาก็จะถูกถอนออกจากทะเบียนทันที ปัญหาเรื่องยาที่จะไปทำลายตับ ทำลายไต เท่าที่พบเกิดจาก 2 สาเหตุคือ
การปล่อยให้ระดับน้ำตาลควบคุมไม่ได้ จนหลอดเลือดของเราถูกทำลาย และ
2 คือการกินยาผีบอก หรือยาที่คนเขาเอามาหลอกขายต่างหากที่จะทำให้อวัยวะเราถูกทำลาย(จนหลายคนต้องกลายไปเป็นผี ที่กลับมาบอกความจริงไม่ได้เสียชีวิตเพราะคนด้วยกันนี่แหละหลอก) เพราะฉะนั้นยาที่คุณหมอในรพ.จ่ายให้เป็นยาที่มีความปลอดภัยมากพอ และมีผลในการรักษาควบคุมระดับน้ำตาลเพื่อให้ชีวิตการเป็นเบาหวานของเรานั้นมีความปลอดภัยมากพอ ดังนั้นจึงต้องกินยา/ฉีดอินสุลินตามที่คุณหมอแนะนำนะคะ ระดับน้ำตาลจึงจะสามารถควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ได้
3. สิ่งที่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด คือ อาหาร ถ้าเราเรียนรู้ว่าอาหารชนิดไหนส่งผลต่อระดับน้ำตาลในร่างกายเรายังไง จะทำให้เราเลือกกินอาหารได้เหมาะสมมากขึ้น ความจริงที่คนเป็นเบาหวานหลายคนไม่รู้คือ คนที่เป็นโรคเบาหวานทานอาหารได้ทุกอย่างที่อยากกิน เรื่องปริมาณต่างหากเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง อย่างเช่น ข้าว 1 ทัพพี เท่ากับ การกินขนมปัง 1 แผ่น หรือเท่ากับการกินเค้ก 1/3 ชิ่น หรือเท่ากับการกินมะม่วงสุกหรือดิบก็ตาม 1/2 ลูก เพราะฉะนั้นยิ่งเราเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เรามีความสุขกับการกินอาหารทุกชนิดโดยที่เรายังสามารถควบคุมระดับน้ำตาลของเราได้ด้วย
4. เครื่องเจาะเลือด เป็นตัวช่วยที่จำเป็นสำหรับชีวิตคนเป็นเบาหวาน แต่ก็ต้องใช้ประโยชน์จากเครื่องเป็นด้วยจึงจะมีประโยชน์ ระดับน้ำตาลบอกอะไรเราได้บ้าง? ระดับน้ำตาลสามารถบอกเราได้ว่า ช่วงเวลาก่อนหน้าที่เราจะเจาะเลือด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการกินอาหาร หรือการออกกำลังกาย หรือยาส่งผลต่อเราอย่างไร รวมที้งเป็นตัวกำหนดให้เราตัดสินใจที่จะกินอาหาร ทำกิจกรรม อย่างไรต่อไปในอนาคต
5. การออกกำลังกายส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน
Credit: luckareerut.wordpress.com
โซนสีเขียว คือ ระดับน้ำตาลที่ปลอดภัย หากเราสามารถรักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์นี้ไว้ตลอด ชีวิตย่อมปลอดภัยจากโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดจากโรคเบาหวานอย่างแน่นอน
โซนสีเหลือ คือ ระดับน้ำตาลที่เริ่มไม่ปลอดภัย หากทิ้งไว้นานก็จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้
โซนสีแดง คือ ระดับน้ำตาลที่เป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในร่างกาย หรืออาจจะทำให้ถึงแก่่ชีวิตได้ การที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์โดยปล่อยให้ระดับน้ำตาลสูงเกินกว่าเกณฑ์เป็นระยะเวลานานหลายปี จะส่งผลต่อระบบหลอดเลือดภายในร่างกายอย่างแน่นอน ซึ่งผลสุดท้ายจะส่งผลต่ออวัยวะสำคัญ ทำให้ตาบอดได้ ทำให้หัวใจมีปัญหาได้ ทำให้ไตวายได้ ทำให้ระบบปลายประสาทไม่มีความรู้สึกได้ (ระดับน้ำตาลสูงอย่างรุนแรงจะทำให้เลือดเป็นกรด เหนื่อยหอบ หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ระดับความผิดปกติของเกลือแร่ในเลือดที่ชื่อว่าโปแตสเซียม สามารถจะทำให้หัวใจหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้)
ส่วนการที่ปล่อยให้ระดับน้ำตาลต่ำกว่าเกณฑ์อยู่เสมอ นอกจากจะทำให้เรามึนงง หมดสติ หรืออาจจะทำให้เสียชีวิตได้ (ระดับน้ำตาลต่ำแบบรุนแรงสามารถส่งผลให้หมดสติ และหากไม่ได้รับการช่วงเหลือได้ทันท่วงทีระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำจนถึงขั้นเสียชีวิตได้)
แล้วเราคนที่เป็นโรคเบาหวานจะดูแลตัวเองยังไงดี ที่จะทำให้ระดับน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ได้ มีชีวิตอยู่กับเบาหวานอย่างมีความสุขได้ โดยไม่มีโรคแทรกซ้อน?
การจะมีชีวิตอยู่กับโรคเบาหวานให้ได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยจากโรคแทรกซ้อนจำเป็นที่ต้องศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน ต้องรู้ระดับน้ำตาลของตัวเองให้ได้อย่างจริงจัง จนสามารถที่จะยอมรับว่าเบาหวานคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราจะต้องดูแลตลอดไป
ถ้าเรามีวิธีคิดและความรู้ความเชื่อเช่นนี้ เราก็จะเป็นเบาหวานได้อย่างปลอดภับโดยปราศจากโรคแทรกซ้อนอย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน คือ
1. โรคเบาหวานเป็นโรคที่รักษาได้ ควบคุมได้ แต่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ ไม่ว่าจะไปหาหมอผี กินยาผีบอก จ่ายเงินให้กับคนที่มาหลอกสักแค่ไหนก็ตาม โรคเบาหวานก็จะอยู่กับเราเสมอ เพราะฉะนั้นแม้ว่าเราจะควบคุมได้ แต่ถ้าเราเผลอไม่ดูแล ระดับน้ำตาลก็พร้อมที่จะสูงขึ้นมาทุกเมือ นอกจากไม่ควรเชื่อหมอเถื่อนหมอผีแล้ว การรักษากับบุคคลากรทางการแพทย์ การไปพบแพทย์ตามนัดหมาย จึงเป็นเรื่องสำคัญ (สถานที่ไหนสามารถรักษาเบาหวานโดยไม่มีการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เชื่อถือไม่ได้นะคะ) การไปพบแพทย์นั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องประจำทุกๆ 2 เดือน(อย่างมากแล้ว) แต่ถ้าเราดูแลตัวเองได้ดี เราก็จะได้ใบนัดแบบทุกๆ 3 หรือ 4 เดือน ซึ่งเท่ากับปีละ 3-6 วันจาก 365 วันเป็นอย่างมาก การไปพบแพทย์ก็เพื่อตัวเราเองนะคะ อย่าถือว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อเลยนะคะ
2. ยาที่คุณหมอให้นั้น ไม่ส่งผลทำลายหรือทำร้ายตับไตหรอกค่ะ ยารักษาที่นำมาใช้นั้นผ่านการค้นคว้าวิจัยมาอย่างดีแล้ว หากมีการค้นพบว่าตัวยามีปัญหายาก็จะถูกถอนออกจากทะเบียนทันที ปัญหาเรื่องยาที่จะไปทำลายตับ ทำลายไต เท่าที่พบเกิดจาก 2 สาเหตุคือ
การปล่อยให้ระดับน้ำตาลควบคุมไม่ได้ จนหลอดเลือดของเราถูกทำลาย และ
2 คือการกินยาผีบอก หรือยาที่คนเขาเอามาหลอกขายต่างหากที่จะทำให้อวัยวะเราถูกทำลาย(จนหลายคนต้องกลายไปเป็นผี ที่กลับมาบอกความจริงไม่ได้เสียชีวิตเพราะคนด้วยกันนี่แหละหลอก) เพราะฉะนั้นยาที่คุณหมอในรพ.จ่ายให้เป็นยาที่มีความปลอดภัยมากพอ และมีผลในการรักษาควบคุมระดับน้ำตาลเพื่อให้ชีวิตการเป็นเบาหวานของเรานั้นมีความปลอดภัยมากพอ ดังนั้นจึงต้องกินยา/ฉีดอินสุลินตามที่คุณหมอแนะนำนะคะ ระดับน้ำตาลจึงจะสามารถควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ได้
3. สิ่งที่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด คือ อาหาร ถ้าเราเรียนรู้ว่าอาหารชนิดไหนส่งผลต่อระดับน้ำตาลในร่างกายเรายังไง จะทำให้เราเลือกกินอาหารได้เหมาะสมมากขึ้น ความจริงที่คนเป็นเบาหวานหลายคนไม่รู้คือ คนที่เป็นโรคเบาหวานทานอาหารได้ทุกอย่างที่อยากกิน เรื่องปริมาณต่างหากเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง อย่างเช่น ข้าว 1 ทัพพี เท่ากับ การกินขนมปัง 1 แผ่น หรือเท่ากับการกินเค้ก 1/3 ชิ่น หรือเท่ากับการกินมะม่วงสุกหรือดิบก็ตาม 1/2 ลูก เพราะฉะนั้นยิ่งเราเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เรามีความสุขกับการกินอาหารทุกชนิดโดยที่เรายังสามารถควบคุมระดับน้ำตาลของเราได้ด้วย
4. เครื่องเจาะเลือด เป็นตัวช่วยที่จำเป็นสำหรับชีวิตคนเป็นเบาหวาน แต่ก็ต้องใช้ประโยชน์จากเครื่องเป็นด้วยจึงจะมีประโยชน์ ระดับน้ำตาลบอกอะไรเราได้บ้าง? ระดับน้ำตาลสามารถบอกเราได้ว่า ช่วงเวลาก่อนหน้าที่เราจะเจาะเลือด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการกินอาหาร หรือการออกกำลังกาย หรือยาส่งผลต่อเราอย่างไร รวมที้งเป็นตัวกำหนดให้เราตัดสินใจที่จะกินอาหาร ทำกิจกรรม อย่างไรต่อไปในอนาคต
5. การออกกำลังกายส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน
Credit: luckareerut.wordpress.com
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ เราไม่ควรมองข้ามจุดใดเลย เพราะโรคเบาหวานถ้าเป็นแล้วก็ต้องควบคุมการทานอาหาร ควบคุมระดับน้ำตาล ควบคุมการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าเกิดเป็นโรคเบาหวาน เราควรควบคุมให้อยู่ในโซนสีเขียวเป็นดีที่สุดครับ
ตอบลบไปพวกเราไปออกกำลังกายกัน..กินอย่างมีสติด้วยนะ..รักตัวเองมากๆเข้าไว้
ตอบลบขอให้สุขภาพดีกันทุกคน
ขอขอบคุณข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพดีๆของคุณตั้มนะครับ ต้องเริ่มจากการหลีกเลี่ยงอาหารน้ำตาลสูงๆก่อนเช่น ชาเขียวอิชิตัน และออกกำลังกายกัน *-*
ตอบลบอย่ากินตามใจปาก..Control อาหาร..หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอให้เป็นกิจวัติประจำวัน..โรคแทรกซ้อนก็จะไม่มาครัช...
ตอบลบขอบคุณสำหรับข้อมูลมากเลยครับ
ตอบลบช่วยเตือนให้ผมระวังเพิ่มขึ้นเพราะต้องพบแพทย์เป็นประจำและทานยาควบคุมระดับน้ำตาลอยู่
คงต้องเพิ่มการออกกำลังกายอีกหน่อย
ผมว่า สิ่งสำอยู่ที่การกินนะครับ ถ้ารู้จักควบคุม ก็อาจทำให้ห่างจากโรคเบาหวานได้ครับ ยังไงช่วงนี้ก็ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์นะครับ
ตอบลบผมเชื่ิอว่า ทุกๆคนคงได้ประโยนช์ จากบทความเรื่องนี้ เพราะว่า การดูแลร่างกายเรานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ต่อการดำเนินชีวิต มีคำพูดนึ่งจากแฟนผมพูดว่า...ขนดตัวเองยังไม่ดูแลร่างกาย สุขภาพ แล้วจะไปดูแลคนอื่นได้งัย
ตอบลบคนเป็นเบาหวานควรระวังเรื่องบาดแผลด้วยนะครับ เป็นแล้วหายยาก
ตอบลบผมชอบออกกำลังกายเป็นประจำ และควบคุมอาหารและมีการตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี
ตอบลบคนที่เป็นเบาหวานควรที่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และปฎิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าเป็นแล้วจะทำให้เกิดโรคแซกซ้อน
ตอบลบคนเป็นความดันให้ระวังไว้บ้างนะครับ..คนส่วนใหญ่เป็นความดันเบาหวานก็จะตามมานะครับ
ตอบลบก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณบทความดีๆนี้ด้วยนะครับ ส่วนมากเราจะเจอว่าคนอ้วนส่วนมากจะเป็นโรคเบาหวาน แต่ไม่เสมอไปนะครับ คนผอมก็เป็นได้ถ้ามีกรรมพันธุ์ แล้วที่ผ่านๆมาบทความเกี่ยวกับสุขภาพก็จะเน้นเรื่องการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ "กีฬาๆเป็นยาวิเศษ ฮ้าไฮ้" ร้องมาตั้งแต่เด็ก จบ อิอิ
ตอบลบขอบคุณนะครับ สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านพร้อมนำไปสังเกต คนในครอบครัว แต่อย่างไรก็ดี การควบคุมอาหารนั้นก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญ ยังไงก็ระวังกันด้วยนะครับ
ตอบลบขอบคุณข้อมูลดีดีครับ ถ้าเรารู้จักออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เลือกกินผักและผลไม้อย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยลดการเป็นเบาหวานได้ในทางนึงนะครับ
ตอบลบเบาหวานเป็นโรคที่ไม่มีไครหยากเป็น เป็นเเล้วก็มีเเต่จะเป็นั่นเป็นนี้เพิ่มขึ้น การออกกำลังกายดีที่สุดครับ
ตอบลบดูแลเบาหวานอย่างไร ไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน
ตอบลบหลายคนคงหายสงสัยและหายกลัว กันบ้างแล้ว
ส่วนคนทีกังวลอยู่ ก็คงได้ข้อมูลที่นำไปใช้ปฏิบัติกันได้ไป
ข้อสำคัญหมั่นออกกำลังกาย เป็นดีที่สุดด
ถ้าเราควบคุมเรื่องอาหารการกินและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเท่านี้ไม่จะเป็นโรคเบาหวานหรือโรคร้ายต่างๆก็จะไม่มาเยือนเราแน่ๆครับ
ตอบลบการออกกำลังกายจะทำให้การควบคุมเบาหวานง่ายขึ้น และทำให้น้ำหนักลดทำให้หุ่นดีด้วยครับ
ตอบลบลดเค็ม ลดหวาน ลดมัน ออกกำลังกายแค่นี้ก็ห่างไกลจากเบาหวานแล้วคับ
ตอบลบโรคเบาหวานเกิดขึ้นได้อย่างไรครับและเราจะป้องกันอย่างไรเคยได้ยินว่าเป็นกรรมพันธุ์ด้วยใครรู้ตอบด้วยครับ
ตอบลบพยายามดูแลตัวเองไม่ให้เป็นโรคเบาหวานจะดีกว่า เช่นการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมงดกินของมัน ของหวานเกิน ปลอดโรคปลอดภัย
ตอบลบปรับปรุงวิถีชีวิต
ตอบลบ- ออกกำลังกายให้มากขึ้น
- เดินให้มากขึ้น ไม่อาศัย พาหนะถ้าทำได้
- ระวังเรื่องอาหาร อาหาร “จานด่วน” มักจะมีไขมันสูง
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับปกติ ไม่อ้วน ไม่ผอม
พ่อแม่หรือครอบครัวเป็นเรามีสิทธิที่จะเป็นไหมครับ
ตอบลบดูแลสุขภาพเพิ่มสักนิดแล้วชีวิตจะยาวนานนนนน
ตอบลบการออกกำลังกายสำคัญที่สุดแล้ว ยิ่งคนวัยทำงานด้วย ยิ่งต้องหาเวลาออกกำลังกายเยอะๆนะ จะได้ห่างจากโรคภัย
ตอบลบต้องตรวจร่างกายประจำทุกปีครับป้องกันไว้ก่อน ส่วนคนที่มีกรรมพันธุ์ ควรจะตรวจทุกๆ6เดือนครับ ป้องกันไว้ก่อนที่มันจะสายเกินไป
ตอบลบควรควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
ตอบลบโรคเบาหวานเป็นโรคที่รักษาได้ ควบคุมได้ แต่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ การออกกำลังกายเป็นการบรรเทาได้ดีที่สุดครับ
ตอบลบคงต้องเน้นในเรื่องออกกำลังกายแล้วละครับ เพราะว่าเรื่องการคุมอาหารจริงๆเนี้ย ยากมากครับ แต่ถ้าเราตั้งใจจริงๆ มีแรงบันดาลใจที่จะลดจริงๆก็สามารถทำได้อยู่ ขอบคุณหลายๆครับสำหรับข้อมูลนี้
ตอบลบเป็นเบาหวาน ในแง่หนึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่าเป็นโรคเรื้อรัง รู้สึกเศร้าใจแต่
ตอบลบถ้ามองอีกทีมันเหมือนเป็น wake up call น่ะครับ เป็นสัญญานเตือนให้เราเริ่มมาดูแลสุขภาพจริงจัง คนไข้หลายคนหลังจากที่รู้ว่าเป็นเบาหวานนั้น ดูแลสุขภาพจนแข็งแรงกว่า คนที่ไม่มีโรคประจำตัว
ควรควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย หมั่นตรวจดูร่างกายตลอด
ตอบลบ