วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เรื่องเข็มนาฬิกากับหน้าที่

By P'Sunant




เข็มนาฬิกากับหน้าที่ ณ ห้องนั่งเล่นของบ้านหรูสไตล์ตะวันตกหลังหนึ่งมีนาฬิกาเรือนงามเรือนหนึ่งประดับเด่นอยู่บนผนัง

ของห้องนั่งเล่นนั้นเข็มนาฬิกาทั้งสามบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนงามนี้ต่างภูมิใจในหน้าที่ของพวกตนที่ได้บอกเวลาอย่างเที่ยงตรงแก่เจ้าของบ้านและผู้มาเยือนมาโดยตลอด

วันหนึ่งเจ้าเข็มวินาทีสีแดงสดรูปร่างเพรียวบางรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับภาระหน้าที่ของตัวเองที่ต้องตรากตรำเดินอยู่บนหน้าปัดตลอดเวลาอย่างเหน็ดเหนื่อยในขณะที่ในวันหนึ่ง ๆ เจ้าเข็มสั้นและเจ้าเข็มยาวไม่ค่อยได้เดินสักเท่าไรเลยเจ้าเข็มวินาทีจึงรู้สึกว่าตนถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างมาก จึงโวยวายออกไปว่า

“ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ พอทีเถอะ ข้าเหนื่อยเหลือเกินกับการทำหน้าที่ของข้าพวกเจ้าเอาเปรียบข้า ข้าไม่เคยได้พักอย่างพวกเจ้าบ้างเลย ข้าไม่อยากเดินอีกต่อไปแล้ว พอกันที”

เมื่อได้ฟังดังนั้น เจ้าเข็มสั้นจึงบอกกับเจ้าเข็มวินาทีไปด้วยเสียงอันแหลมเล็กว่า

“โอ๊ะ.........โอ!! โถๆๆๆ เจ้าเข็มวินาทีเอ๋ย เจ้าหาว่าพวกข้าเอาเปรียบงั้นรึ? เจ้าจงมองดูรูปร่างของข้าสิอ้วนอุ้ยอ้ายและยังตัวสั้นเตี้ย แถมข้ายังมีหัวที่โตมากอีกต่างหากข้าต้องแบกหัวหนัก ๆ นี้ไว้ตลอดเวลาเลยกว่าข้าจะเดินได้แต่ก้าวนี่ช่างยากลำบากกว่าเจ้าเป็นไหน ๆ แล้วอย่างนี้เจ้าจะมาหาว่าข้าเอาเปรียบเจ้าได้อย่างไรกัน”

เจ้าเข็มยาวก็กล่าวเสริมว่า “เจ้าเข็มวินาทีเอ๋ยเจ้าคงไม่รู้หรอกนะว่าข้าแอบอิจฉาเจ้าที่เจ้ามีรูปร่างเพรียวบางสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่วและมีสีแดงสดใสสะดุดตาเช่นเจ้านี้ ผิดกับข้านักที่ตัวดำและหนาเทอะทะ”


“ไม่จริง พวกเจ้าโกหกไม่ต้องมาหลอกข้าซะให้ยากบอกว่าข้าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมไม่มาเป็นข้าดูบ้างล่ะ

ข้าจะได้พักผ่อนเสียที” เจ้าเข็มวินาทีกระแทกเสียง

เจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามจึงสลับหน้าที่กันโดยที่เจ้าเข็มสั้นทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มยาวขณะที่เจ้าเข็มยาวทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มวินาทีส่วนเจ้าเข็มวินาทีได้แต่นอนดูเพื่อน ๆ เดินตามหน้าที่ใหม่มันดีใจมากที่ไม่ค่อยได้เดินสักเท่าไรเพราะมันทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มสั้น


ทันใดนั้นเจ้าของบ้านที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก็เกิดความประหลาดใจมากที่เห็นนาฬิกาเรือนงามบนผนังเดินผิดปกติ กึก...กึก..........กึก........เจ้าเข็มวินาทีสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนของนาฬิกา “โอ๊ย......... เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ?” เจ้าเข็มวินาทีถามขึ้น “แย่แล้ว..... พวกเราไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้วหรือนี่ทำไมเขาถึงยกนาฬิกาที่เราอยู่ลงจากผนังเสีย ? เราจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้”

เจ้าเข็มสั้นพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือ “เมื่อพวกเราต่างไม่ได้ทำตามหน้าที่ของตนนาฬิกาเรือนนี้ก็ไม่สามารถบอกเวลาได้อย่างแม่นยำเหมือนเดิมได้อีกแล้ว เจ้าของบ้านเขาคงเห็นว่าเราคงหมดประโยชน์แล้วล่ะแต่ข้าว่ามันคงไม่สายเกินไปนะที่พวกเราจะทำให้นาฬิกาเรือนที่เราอยู่นี้มีคุณค่าขึ้นอีกครั้งโดยที่เราต้องทำตามหน้าที่ของแต่คนตามเดิม” เจ้าเข็มยาวบอก

“ข้าผิดไปแล้ว เพราะข้าคนเดียวทำให้พวกเราหมดคุณค่าไป” เจ้าเข็มวินาทีพูดด้วยความสำนึกผิด แล้วเจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามก็กลับมาทำหน้าที่ของพวกตนตามเดิม

เมื่อเจ้าของบ้านเห็นว่านาฬิกาเรือนงามของเขาสามารถบอกเวลาได้ตามปกติแล้วเขาจึงนำนาฬิกาเรือนนั้นไปแขวนที่ผนัง

ห้องนั่งเล่นตามเดิมเจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามก็เดินบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนงามตามหน้าที่ของพวกตนอย่างมีความสุข

35 ความคิดเห็น:

  1. บทความอันยอดเยี่ยมนี้สอนให้รู้ว่าความสำคัญของเข็มนาฬิกาไม่ว่าเข็มเล็กเข็มใหญ่ก็สำคัญทั้งสิ้นแต่แค่มีหน้าที่ที่ต่างกันเท่านั้น..เพื่อให้นาฬิกาเดินได้ปกติ.
    เช่นเดียวกับชีวิตการทำงานไม่ว่าใครก็ตามที่มีหน้าที่ต่างกันอยู่ในที่เดียวกันถ้าช่วยกันก็จะนำพาให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยดี

    ตอบลบ
  2. ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบต่างกัน มีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น ต้องช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะเป็นเข็มเล็กหรือเข็มใหญ่ ถ้าเข็มเล็กไม่เดินเข็มใหญ่ก็ขับเคลื่อนไม่ได้ แต่ถ้าเข็มเล็กขับเคลื่อนเต็มที่แต่เข็มใหญ่ไม่สนับสนุน นาฬิกาก็พังเช่นกัน

    ตอบลบ
  3. บทความนี้เหมือนกับนิทานเรื่องความสามัคคี ตากับเท้า ถ้าเกิดไม่มีความสามัคคีกันแล้วยากที่จะทำทุกสิ่งให้ประสบความสำเร็จได้ บทความของท่านสุนันต์ก็เป็นอีกเรื่องที่เป็นคติสอนใจในเรื่องความสามัคคีได้เป็นอย่างดี ถ้าขาดฟันเฟือนตัวใดตัวหนึ่ง นาฬิกา หรือ งานก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ครับ

    ตอบลบ
  4. ...เป็นอีกหนึ่งบทความที่เปรียบเทียบเรื่องของความสามัคคี ถ้าคิดไปกันคนละทางเป้าหมายที่วางไว้ก็คงจะไม่สำเร็จ

    ตอบลบ
  5. คนเราล้วนมีหน้าที่แตกต่างกันไปมีความสำคัญมากน้อยแตกต่างกันแต่เมื่อขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปก็อาจจะไม่สำเร็จในสิ่งที่ทำนั้น ก็เหมือนนิ้วมือทั้ง5ของคนเราเมื่อขาดนิ้วไหนก็ทำอะไรไม่ถนัด เราควรสามัคคีกันช่วยกันเพื่อพัฒนาสิ่งที่เราทำหรือกำลังจะทำต่อไปในอนาคตให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ครับพี่น้อง

    ตอบลบ
  6. ...งี้ต้องเปลี่ยนมาใช้แบบ ดิจิตอลละครับ มีตัวเดียว อันเดียว อิๆๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. 55555555 บวชมานี้เอาฮ่าเลยนะจารย์อ๋อง

      ลบ
  7. บทความนี้อ่านแล้วบอกถึงความสามัคคีที่เป้นข้อเปรียบเทียบระหว่างหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบของตนเเอง

    ตอบลบ
  8. หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันแต่เป้าหมายเดียวกันเราควรจะสามัคคีและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ไปถึงเป้าหมายได้

    ตอบลบ
  9. อ่านแล้วบ่งบอกถึงความแตกแยกทางความคิดจึงทำให้ไม่มีความสามัคคีเลยทำให้เป้าหมายเปลียนไป.....

    ตอบลบ
  10. บทความดีๆที่นำมาให้อ่านนั้นดีมากครับ ทำให้เข้าใจว่าในทีมงานทำงานร่วมกันต้องมีหลายความคิด หลายหน้าที่ หลายปัญหา หลายอารมณ์ และอีกหลายๆอย่างที่มีนั้น เราต้องเข้าใจว่าเรามีเป้าหมายเดี่ยวกันคือความสำเร็จของงานนั้นๆ เราต้องเข้าใจว่าถ้าทีมงานขาดแรงใดแรงหนึ่ง หรือมัวแต่คิดว่าทำมากกว่าทำน้อยกว่าสิ่งนั้นที่เราหวังหรืองานที่เราทำนั้นก็ไม่สำเร็จ..... ทุกคนทุกตำแหน่งล้วนมีบทบาทและความสำคัญของมันอยู่ในตัวครับ

    ตอบลบ
  11. เราทุกคน ต่างมีความสำคัญ แต่ต่างกันตรงหน้าที่......
    หรืออาจจะกล่าวว่า” ทุกสิ่งต่างมีความสำคัญ เท่ากัน แต่ต่างกันตรงหน้าที่” ก็ได้..

    เพราะว่า สรรพสิ่งที่ได้เกิดขึ้นมาแล้ว ต่างต้องมาอยู่ในวงจร
    ในวิถีเดียวกัน เป็นการพึ่งพาอาศัยกัน
    หากกล่าว ในหลักของวงจร ของ อิทัปปัจจัยยตาปฏิจจสมุปบาท นั่นเอง
    แต่เราเองอยากที่จะกล่าวอะไรแบบธรรมดา ง่าย ๆ....ว่า
    เราเท่าเทียมกันมีเอกภาพในความเป็นหนึ่งชีวิต ที่เท่ากัน
    ไม่มีใครที่สูงกว่า เพราะเราไปมองเขาสูงกว่าเราเลยต่ำ
    ไม่มีใครต่ำกว่าเรา เพราะเราไปคิดว่าเรายืนอยู่สูงกว่าเขา ….
    หากยืนอยู่ในจุดเดียวกัน มันก็มีความเสมอกัน ที่จะทำอะไรสิ่งใดได้ง่าย ๆในระดับเดียว
    หรือ อาจจะเป็นเพราะการแต่งกาย หรือเพราะหน้าที่เลยลืมไป...
    ที่เขาเรียกว่า.....หัวโขน เขามีไว้แสดง แต่จริง ๆแล้ว มันเป็นของจริง มันไม่ใช่การแสดง การเสแสร้ง ทำให้เมื่อยเปล่าผิดหลัก ฝืนธรรมชาติ....
    หากมีแต่ คนกวาดขยะ แล้วใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี
    หรือว่าหากมีแต่ นายกรัฐมนตรี แล้วใครจะมาเป็นคนกวาดขยะ.
    บางครั้งแม้แต่ ภาษาเดียว ความเข้าใจเดียว แต่ทำเป็น สำบัดสำนวน ให้เกิดการไขว้เขว ...
    ความแตกต่างที่ไม่แตกต่าง
    เท่ากันทั้งหมด ต่างหน้าที่.....มีความสำคัญ
    อย่าหลงทาง อย่าหลงตน อย่าทะนงตนเอง จงเตือนตน
    หน้าที่ ที่ทุกคนต่างต้องทำ
    การคิดข้าม ช็อต คิดได้แต่อย่าทำข้าม ช็อต เพราะระบบนั้นมีกระบวนการ
    มองอย่างมีกึ๋น
    เราให้เกียรติกัน
    ทกคนมีจุดยืนที่เหมือนกัน แตกต่างกันตรงสถานที่ยืนอยู่
    ในความเป็นพลโลก ที่นับค่า ความเป็นหนึ่ง ความเป็นเอกภาพ ที่ต่างบทบาทเท่านั้นเอง
    ภาพยนตร์หรือละคร ที่แสดงอยู่ คงไม่มีใครจ้าง แต่ ดาราแสดงนำ มีแต่ พระเอก นางเอกหรอกนะ แล้ว ใครจะมาเป็นตัวประกอบ ที่จะมาส่ง ให้แต่ละคนได้แดง บทของแต่ละคนโดดเด่น แม้แต่เรื่อง การแสอง ที่อุปโลกน์มายัง ถือว่า ตัวประกอบ หรือฉาก หรือ แม้แต่ก้อนหิน ยังเป็นตัวส่งให้เนื้อหาสาระ ดำเนินไปได้เลย...
    ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
    เมื่อออกมาจากบทบาท ตรงนั้น
    ก็มากลายเป็นคนที่ มีค่าในความเป็นมนุษย์ ที่นับเป็นหนึ่งคนเท่ากัน
    เป็นจิ๊กซอว์หรือเป็นโดมิโน
    ที่เป็น ส่วนต่อของกันและะกันที่ต้อง อาศัยมาปะติดปะต่อกัน เป็นพิกเจอร์ไลฟ์ ที่แสดงร่วมกัน
    ก็ได้ หรือในบางวาระในการแสดงหรือนำเสนอยังไม่มาถึง ยังไม่ได้มานำเสนอพร้อมกันเท่านั้นเอง
    คนบางคนอาจคิดเรื่องบางเรื่องได้
    และคนบางคนอาจคิดเรื่องบางเรื่อง.....ไม่ได้
    นั่น ละคือความเหมาะสมที่ต้องอยู่คนละจุดกัน แต่ก็ยังไม่ต่างกัน
    และงานบางอย่างเหมาะกับคนบางคน และไม่เหมาะสำหรับคนบางคน
    ฉะนั้นจงเข้าใจว่า การที่ บางคนเหมาะสมที่จะทำอะไร สิ่งใดนั้น เป็น เพราะความเหมาะสมในจุดที่เขาหล่านั้นจะยืนอยู่
    มีพลทหาร มีนายสิบ มีนายร้อย มีนายพัน และมีนายพล.......ที่ต้องแตกต่าง ...หากเข้าใจแล้วไม่แตกต่าง
    มีคนขายของ ก็มีคนซื้อของ.........
    มีครู ก็ต้องมีศิษย์...
    และอีกมากมาย
    ต้องรู้บทบาท เข้าใจบทบาท หน้าที่ตนเอง ว่าอยู่ตรงไหน และควรที่จะทำอะไร
    บางทีการสำคัญตนมากเกินไป ก็เลยกลายเป็นการหลงตนไปและมีผลร้ายตามมาอย่างต่อเนื่อง
    โดยหาคิดไมว่า การที่ตนได้มาอยู่ตรงจุดนี้ได้อย่างไร
    อย่าลืมว่า “น้ำสามารถพยุงเรือให้ลอย ได้ แต่ก็จงอย่าลืมว่า น้ำก็สามารถที่จะทำให้เรือจมได้เช่นกัน.”
    เพราะหากจะบอกให้เข้าใจว่า ทุกสิ่งนั้นเกิดมาเพื่อเอื้อกัน และหนุนเนื่องกัน
    โปรดจงเข้าใจว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว เราเองจึงต้องพึงพาอาศัย เป็น แขน เป็นขาเป็นมือเป็นนิ้วของกันและกัน ตามหน้าที่ตามความเหมาะสม.....
    อย่าไปน้อยใจอะไรที่ในบางครั้งดูเหมือนว่าเราไม่ได้รับการเหลียวแลหรือใส่ใจ
    ดังเช่นว่าเรานั้น ไม่มีความสำคัญอะไรเลยหรือ..
    ราชสีห์นั้นว่าเป็นสัตว์ใหญ่เจ้าป่า ก็ หนึ่ง หนูนั้นสัตว์ตัวกะจ้อยร่อยก็หนึ่ง หนูก็เคยช่วยมาแล้วในนิทานอีสป
    แต่ในความเป็นจริง ก็ย่อมเป็นจริงเสมอว่า..
    หากเราเข้าใจ เราจะรู้ว่า แม้แต่อวัยวะของร่างกายเรานั้น ต่างก็ก็มีความสำคัญเท่ากัน.....
    แต่ต่างกันตรงหน้าที่....
    เพราะอย่างไรเรานั้น
    เราก็เป็นคน หนึ่งที่ได้เกิดมาแล้ว

    ให้เกียรติเขาแล้วเราจะได้เกียรติ
    เราได้มาเติมแต้มสีสันเป็นส่วนหนึ่งของโลก….ร่วมกัน
    อย่าสำคัญตนว่าตนเองมีค่ามากกว่าใครเลย เพราะในความเป็นหนึ่งของมนุษย์นั้น ค่าเท่ากันเสมอ
    ที่คิดว่ายิ่งใหญ่อย่างไรสุดท้าย ก็มากองอยู่ กองเดียว .....ก็ กอง( เถ้า........ ) เท่ากันแค่นั้นเอง

    ตอบลบ
  12. ต่างคนต่างมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะหน้าที่นั้น เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัวโดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงานจะต้องพาดพิงกันจะต้องเกี่ยวโยงกัน ฉะนั้นแต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นแล้วช่วยกันทำ

    ตอบลบ
  13. ต่างคนต่างหน้าที่ ต่างคนต่างความสำคัญ

    ตอบลบ
  14. อ่านแล้วรู้สึกดีมากและได้ประโยนช์ ในการปฎิบัติงานในองค์ครับ

    ตอบลบ
  15. รู้จักหน้าที่และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

    ตอบลบ
  16. เป็นบทความที่ดีมาก บทความหนึ่งเลยครับ ทุกคนต่างมีความสำคัญ ฟันเฟืองเล็กๆแต่มันก็ทำให้นาฬิกาแพงๆ เดินได้ครับ

    ตอบลบ
  17. ถึงหน้าที่เราจะมีความรับผิดชอบที่ต่างกันแต่ท้ายที่สุดแล้วเป้าหมายก็อยู่ที่เดียวกันครับผม

    ตอบลบ
  18. ถ้าทุกคนรู้เป้าหมายในชีวิตก็น่าจะรู้หน้าที่ของตนเองแน่นอนครับพี่น้อง สามัคคีดีที่สุดครับ

    ตอบลบ
  19. เหมือนกับประเทศเราทุกวันนี้ประชาชนไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง แตกแยกเป็นกลุ่มเป็นสีเหมือนกับเข็มนาฬิกาต่างคนต่างเดินไปคนละทิศละทางขาดความความสามัคคีขาดความรับผิดชอบของตัวเอง

    ตอบลบ
  20. สามัคคีคือพลังถ้าร่วมมือร่วมใจกันทำตามหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดก็จะพาทีมงานไปสู่จุดุม่งหมายและประสบความสำเร็จ

    ตอบลบ
  21. ความแตกต่างที่ไม่แตกต่าง
    เท่ากันทั้งหมด ต่างหน้าที่.....มีความสำคัญ
    อย่าหลงทาง อย่าหลงตน อย่าทะนงตนเอง จงเตือนตน
    หน้าที่ ที่ทุกคนต่างต้องทำ
    การคิดข้าม ช็อต คิดได้แต่อย่าทำข้าม ช็อต เพราะระบบนั้นมีกระบวนการ
    มองอย่างมีกึ๋น
    เราให้เกียรติกัน
    ทกคนมีจุดยืนที่เหมือนกัน แตกต่างกันตรงสถานที่ยืนอยู่

    ตอบลบ
  22. เป็นบทความที่บ่งบอกถึง การทำหน้าที่ของแต่ละบุคคล และการทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
    จากบทความเป็นการกำหนดหน้าที่ของแต่ละบุคคลเอาไว้ ซึ่งจะเป็นการง่ายต่อการติดตามผลของงานซึ่งตนเองรับผิดชอบอยู่ ก็เหมือนกับเข็มนาฬิกาที่ได้กำหนดหน้าที่เอาไว้แล้วครับ

    ตอบลบ
  23. แบงค์บ้านฉาง29 พฤษภาคม 2556 เวลา 03:52

    บทความนี่ทำให้รู้ว่าไม่มีใครทำงานมากหรือน้อยกว่าใครหรือใครเหนือยน้อยกว่าใครถ้าทุกคนทำงานตามหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด..

    ตอบลบ
  24. หลากคนหลากสไตล์ ฉะนั้นทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

    ตอบลบ
  25. ช่วยเหลือซึ่งกันและกันถึงจะเป็นงานของเราหรือไม่ใช้ของเราที่เราได้รับมอบหมายก็ตาม ช่วยกันได้ก็ช่วยกัน งานจะได้บรรลุเป้าหมายไปด้วยกัน

    ตอบลบ
  26. ต่างกันที่หน้าที่...แต่ก็มีจุดมุ่งหมายที่เดียวกัน

    ตอบลบ
  27. สามัคคี ร่วมมือและร่วมใจ ก็จะนำพาให้เราไปสู่ความสำเร็จกันทุกๆคน

    ตอบลบ
  28. คนเเต่ละคนมีหน้าที่เเต่ละอย่างไม่เหมือนกัน เหมือนกับเข็มนาฬิกาที่มีหน้าที่เเตกต่างกัน

    ตอบลบ
  29. มองหน้าที่ของตน เเละทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ทุกอย่างก้อจะตามมาเองจร้าาาา ^^

    ตอบลบ
  30. เห็นด้วยกับทุกท่านนะครับ คือต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

    ตอบลบ
  31. ถ้าเรารู้จักรับผิดชอบหน้าที่องค์กรของเราก็จะมีความมั่นคงคับ

    ตอบลบ
  32. จงทำหน้าที่ ของเเต่ละคนไห้ดีที่สุด

    ตอบลบ
  33. เราต้องทำตามหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดีที่สุดและเราจะให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน

    ตอบลบ