น้องแจ๊สกับน้องบิว -
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยบูรพา
VOCs (Volatile Organic Compounds) หมายถึงสารอินทรีย์ระเหยง่าย ที่แปลตรงๆ ตัวคำต่อคำมาจากภาษาอังกฤษที่ว่า
Volatile คือ ระเหยได้ง่าย
Organic คือ สารอินทรีย์ (ที่ประกอบด้วยธาตุคาร์บอนกับไฮโดรเจนเป็นหลัก)
Compounds คือ สารประกอบ
VOCs เป็นสารที่สามารถระเหยกลายเป็นไอได้ในอุณหภูมิห้องและความดันปกติทำให้เกิดอากาศเป็นพิษ (Toxic Air) โมเลกุลส่วนใหญ่ประกอบด้วยอะตอมของคาร์บอนและไฮโดรเจนเป็นหลักซึ่งอาจมีอะตอมของออกซิเจน หรือคลอรีนร่วมด้วย ซึ่งสามารถมีอยู่ได้รอบๆตัวเราไม่ใช่เฉพาะในสถานที่ทำงาน ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันในครัวเรือน ก็เป็นแหล่งระเหยของสาร VOCs ด้วยเช่นกัน อาทิ น้ำยาทำความสะอาด สีทาบ้าน ควันบุหรี่ น้ำยาฟอกสี สารตัวทำละลายในการพิมพ์ อู่พ่นสีรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม น้ำยาซักแห้ง สารฆ่าแมลง สารที่เกิดจากการเผาไหม้จากกองขยะ พลาสติก เป็นต้น
สาร VOCs แบ่งตามลักษณะโมเลกุลได้ 2 กลุ่ม
1. กลุ่ม Non-chlorinated VOCs คือ กลุ่มไฮโดรคาร์บอนระเหยที่ไม่มีโมเลกุลคลอรีนเป็นองค์ประกอบ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซโซลีน สารกลุ่มนี้มาจาก การเผาไหม้ กองขยะ พลาสติก วัสดุ มีผลเสียต่อสุขภาพทำให้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ
2. กลุ่ม Chlorinated VOCs คือ กลุ่มไฮโดรคาร์บอนระเหยที่มีโมเลกุลคลอรีนเป็นองค์ประกอบ ได้แก่ สารเคมีสังเคราะห์ในอุตสาหกรรม เช่น ไวนิลคลอไรด์ คลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตรตระคลอไรด์ ไดโบรโมมีเทน เฮกซาคลอโรอีเทน เป็นต้น สารเหล่านี้สามารถคงอยู่ในอากาศได้นาน ก่อให้เกิดพิษสูงกว่ากลุ่มแรก เพราะมีพันธะระหว่างคาร์บอนและธาตุกลุ่มฮาโลเจน ซึ่งทนทานและยากต่อการสลายตัวในธรรมชาติ อันตรายของสารกลุ่มนี้ ทำให้มีผลทางพันธุกรรมก่อให้เกิดมะเร็งหรือกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง
VOCsสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทางทั้งทางผิวหนัง ทางปาก และจากการสูดดม ซึ่งก็จะมีอาการแตกต่างกันไปตามปริมาณมากน้อยและระยะเวลาสั้นยาวที่ได้รับ อาจจะเกิดผื่นคัน แสบตาน้ำตาไหล หายใจมาสะดวก มึนงง ปวดศีรษะ แสบร้อนในปากในท้อง ซึ่งถ้าได้รับนิดหน่อยร่างกายจะสามารถขับทิ้งไปเองได้ ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด อาจจะแค่พอรำคาญ ก็รักษาอาการตามปกติโดยทั่วไป คือถ้ามีผื่นก็ล้างน้ำสะอาด แสบตาก็ล้างตา คันคอก็ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ (แต่ถ้ามีอาการมากๆ ก็ควรจะไปพบแพทย์โดยเร็ว) นอกจากนี้ถึงแม้จะได้รับสารในปริมาณน้อยแต่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดมะเร็ง หรืออวัยวะภายในถูกทำลายได้
ผลกระทบของสาร VOCs ต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์
- ไม่สบายหายใจไม่สะดวก เคืองตา ระคายคอ จมูก ปวดศีรษะ เป็นไข้
- ผลกระทบต่อภูมคุ้มกัน ระบบภูมิคุ้มกันลดลง ติดเชื้อได้ง่าย
- ผลต่อระบบประสาท ทำลายประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วงนอน วิงเวียนศีรษะ ซึมเศร้า หมดสติ
- มีผลกระทบต่อตับและไต
- ผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ เช่น ระบบพันธุกรรม ระบบฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ ก่อให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สาร VOCs เป็นสารตั้งต้นของปฏิกิริยา photochemical smog และทำปฏิกิริยากับ NOx ทำให้เกิดก๊าซโอโซนและสารอื่นซึ่งเป็นสารมลพิษทางอากาศทุติยภูมิ
สาร VOCs ในรูปของเหลว หรือสารละลาย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ น้ำใต้ดิน และดิน
การป้องกันอันตรายจาก VOCs
เนื่องจากไอระเหยของ VOCs เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน หรือผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ดังนั้นวิธีการปฏิบัติงานขั้นตอนแรกที่จะลดความเข้มข้นของไอระเหย ได้แก่
1. เพิ่มการระบายอากาศในบริเวณนั้น หรือปฏิบัติงานในที่โล่ง ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
2. ภาชนะที่บรรจุสาร VOCs ต้องตรวจตราให้ปิดสนิท
3. อย่าเก็บภาชนะที่บรรจุสารที่ใช้หมดแล้วไว้รวมกันจำนวนมากเพราะภาชนะเหล่านั้นยังมีสารตกค้างที่สามารถระเหยออกมาได้
4. อย่านำสารหรือผลิตภัณฑ์มาผสมกันโดยมิได้ เป็นข้อแนะนำของบริษัทผู้ผลิต
5. จัดซื้อสารในปริมาณที่พอเพียงกับการใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเก็บสารจำนวนมาก
6. การใช้งานหรือการจัดเก็บสาร VOCs ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต
7. อย่าทิ้งภาชนะบรรจุที่ใช้สารหมดแล้วลงในที่ทิ้งขยะทั่วไป ให้แยกทิ้งในที่ทิ้งขยะสารพิษ
นโยบายและแนวทางในการควบคุมปัญหามลพิษจากสาร VOCs
การกำหนดมาตรฐานและมาตรการในการควบคุมการระบายสาร VOCs เช่น มาตรฐานสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไป
มาตรฐาน VOCs ในบรรยากาศโดยทั่วไป (ค่าเฉลี่ย 1 ปี)
Benzene 1.7 µg/m3
Vinyl Chloride 10 µg/m3
1,2 Dichloroethane 0.4 µg/m3
Trichloroethylene 23 µg/m3
Dichoromethane 22 µg/m3
1,2 Dichloropropane 4 µg/m3
Tetrachloroethylene 200 µg/m3
Chloroform 0.43 µg/m3
1, 3 Butadiene 0.33 µg/m3
สาร VOCs แบ่งตามลักษณะโมเลกุลได้ 2 กลุ่ม
1. กลุ่ม Non-chlorinated VOCs คือ กลุ่มไฮโดรคาร์บอนระเหยที่ไม่มีโมเลกุลคลอรีนเป็นองค์ประกอบ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซโซลีน สารกลุ่มนี้มาจาก การเผาไหม้ กองขยะ พลาสติก วัสดุ มีผลเสียต่อสุขภาพทำให้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ
2. กลุ่ม Chlorinated VOCs คือ กลุ่มไฮโดรคาร์บอนระเหยที่มีโมเลกุลคลอรีนเป็นองค์ประกอบ ได้แก่ สารเคมีสังเคราะห์ในอุตสาหกรรม เช่น ไวนิลคลอไรด์ คลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตรตระคลอไรด์ ไดโบรโมมีเทน เฮกซาคลอโรอีเทน เป็นต้น สารเหล่านี้สามารถคงอยู่ในอากาศได้นาน ก่อให้เกิดพิษสูงกว่ากลุ่มแรก เพราะมีพันธะระหว่างคาร์บอนและธาตุกลุ่มฮาโลเจน ซึ่งทนทานและยากต่อการสลายตัวในธรรมชาติ อันตรายของสารกลุ่มนี้ ทำให้มีผลทางพันธุกรรมก่อให้เกิดมะเร็งหรือกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง
VOCsสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทางทั้งทางผิวหนัง ทางปาก และจากการสูดดม ซึ่งก็จะมีอาการแตกต่างกันไปตามปริมาณมากน้อยและระยะเวลาสั้นยาวที่ได้รับ อาจจะเกิดผื่นคัน แสบตาน้ำตาไหล หายใจมาสะดวก มึนงง ปวดศีรษะ แสบร้อนในปากในท้อง ซึ่งถ้าได้รับนิดหน่อยร่างกายจะสามารถขับทิ้งไปเองได้ ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด อาจจะแค่พอรำคาญ ก็รักษาอาการตามปกติโดยทั่วไป คือถ้ามีผื่นก็ล้างน้ำสะอาด แสบตาก็ล้างตา คันคอก็ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ (แต่ถ้ามีอาการมากๆ ก็ควรจะไปพบแพทย์โดยเร็ว) นอกจากนี้ถึงแม้จะได้รับสารในปริมาณน้อยแต่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดมะเร็ง หรืออวัยวะภายในถูกทำลายได้
ผลกระทบของสาร VOCs ต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์
- ไม่สบายหายใจไม่สะดวก เคืองตา ระคายคอ จมูก ปวดศีรษะ เป็นไข้
- ผลกระทบต่อภูมคุ้มกัน ระบบภูมิคุ้มกันลดลง ติดเชื้อได้ง่าย
- ผลต่อระบบประสาท ทำลายประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วงนอน วิงเวียนศีรษะ ซึมเศร้า หมดสติ
- มีผลกระทบต่อตับและไต
- ผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ เช่น ระบบพันธุกรรม ระบบฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ ก่อให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สาร VOCs เป็นสารตั้งต้นของปฏิกิริยา photochemical smog และทำปฏิกิริยากับ NOx ทำให้เกิดก๊าซโอโซนและสารอื่นซึ่งเป็นสารมลพิษทางอากาศทุติยภูมิ
สาร VOCs ในรูปของเหลว หรือสารละลาย ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ น้ำใต้ดิน และดิน
การป้องกันอันตรายจาก VOCs
เนื่องจากไอระเหยของ VOCs เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน หรือผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ดังนั้นวิธีการปฏิบัติงานขั้นตอนแรกที่จะลดความเข้มข้นของไอระเหย ได้แก่
1. เพิ่มการระบายอากาศในบริเวณนั้น หรือปฏิบัติงานในที่โล่ง ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
2. ภาชนะที่บรรจุสาร VOCs ต้องตรวจตราให้ปิดสนิท
3. อย่าเก็บภาชนะที่บรรจุสารที่ใช้หมดแล้วไว้รวมกันจำนวนมากเพราะภาชนะเหล่านั้นยังมีสารตกค้างที่สามารถระเหยออกมาได้
4. อย่านำสารหรือผลิตภัณฑ์มาผสมกันโดยมิได้ เป็นข้อแนะนำของบริษัทผู้ผลิต
5. จัดซื้อสารในปริมาณที่พอเพียงกับการใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเก็บสารจำนวนมาก
6. การใช้งานหรือการจัดเก็บสาร VOCs ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต
7. อย่าทิ้งภาชนะบรรจุที่ใช้สารหมดแล้วลงในที่ทิ้งขยะทั่วไป ให้แยกทิ้งในที่ทิ้งขยะสารพิษ
นโยบายและแนวทางในการควบคุมปัญหามลพิษจากสาร VOCs
การกำหนดมาตรฐานและมาตรการในการควบคุมการระบายสาร VOCs เช่น มาตรฐานสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไป
มาตรฐาน VOCs ในบรรยากาศโดยทั่วไป (ค่าเฉลี่ย 1 ปี)
Benzene 1.7 µg/m3
Vinyl Chloride 10 µg/m3
1,2 Dichloroethane 0.4 µg/m3
Trichloroethylene 23 µg/m3
Dichoromethane 22 µg/m3
1,2 Dichloropropane 4 µg/m3
Tetrachloroethylene 200 µg/m3
Chloroform 0.43 µg/m3
1, 3 Butadiene 0.33 µg/m3
ไวนิลที่ใช้ทำอุปกรณ์ในรถยนต์ใช่ตัวเดียวกันหรือเปล่าถ้าใช่เราก็อยู่กับมะเร็งเลยสิ...ถ้าแดดร้อนจะมีกลิ่นของอุปกรณ์รถ
ตอบลบอยากทราบว่า NOx คืออะไรที่SMRของเราก็มีการวัดค่าอยู่มีอันตรายร้ายแรงมั๊ย
ตอบลบเห็นคนเติมน้ำมันตามปั้มน้ำมันไม่ใส่เครืองป้องกันอะไรเลยมีสิทธ์ได้รับสารอินทรีย์และในระยะยาวมีผลต่อสุขภาพหรือไม่ครับ
ตอบลบมีสิทธิ์รับสารระเหยอย่างแน่นนอนและในระยะยาวมีผลต่อสุขภาพอย่างมาก
ลบโดยเฉพาะประสาทส่วนกลางและถ้ารับสารระเหยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
ก็จะมีผลต่อระบบพันธุกรรมได้
ใกล้ตัวเลยนะเนี้ย น้ำยาล้างห้องน้ำ ต่อไปต้องใส่ผ้าปิดจมูกแล้ว ขอบคุณครับ
ตอบลบอุปกรณ์ที่อยู่ในรถยนต์ เช่น คอนโซลหน้ารถ ถ้าเราจอดทิ้งตากแดดใว้นาน สารพวกนี้จะระเหยออกไหมครับ แล้วพอเราเข้าไปในรถเราจะเป็นอันตรายมากไหมครับ และถ้าเราใช้รถทุกวันรถเราจอดตากแดดเป็นเวลานานๆทุกวันเรามีโอกาสเป็นมะเร็งได้ไหมครับ
ตอบลบ``อย่าดูดบุหรี่นะครับเพราะ ว่าาาา Non-chlorinated VOCs คือ กลุ่มไฮโดรคาร์บอนระเหยที่ไม่มีโมเลกุลคลอรีนเป็นองค์ประกอบ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซโซลีน สารกลุ่มนี้มาจาก การเผาไหม้ กองขยะ พลาสติก วัสดุ มีผลเสียต่อสุขภาพทำให้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ
ตอบลบโดยส่วนตัวแล้ว เป็นคนที่แพ้ และไวต่อกลิ่นน้ำมัน
ตอบลบเพราะเกือบจะทุกครั้งที่ได้กลิ่นจะหายใจไม่สะดวก มึนงงและก็ปวดศีรษะ
ความรู้ดีๆอย่างนี้ดีมากครับ จะได้รู้วิธีป้องกัน
ตอบลบถ้าจะไม่ให้สัมผัสกับสารจำพวกนี้ สงสัยจะต้องหันมาใช้ของจากธรรมชาติซะแล้วมัง
ตอบลบเป็นสารที่อันตรายถึงขั้นเป็นโรคได้ ฉะนั้นควรเลี่ยงไว้ดีกว่าครับ เพื่อสุขภาพ
ตอบลบแล้วค่า VOC ที่สามารถปล่อยออกสู่บรรยากาศได้ไม่เกินค่าที่ก.มกำหนดทีค่าเท่าไหร่ครับ ใครทราบบอกหน่อยครับ
ตอบลบค่า voc กับค่า toc ต่างกันอย่างไรครับ แล้วถ้าค่าสองตัวนี้ผสมกันจะมีอันตรายมากไหม และสามารถเกิดสารสองตัวในสถานที่หรือกิจกรรมใดบ้างครับ เพราะอย่างที่รู้ในแพลนเราก็มีเยอะจะได้ป้องกันตัวเองและเพื่อนร่วมงานครับ
ตอบลบTOC คือ สารอินทรีย์ทุกอย่างครับ VOC จะเป็นเฉพาะที่ระเหยได้ในบรรยากาศปกติครับ
ลบทั้งสองชนิดมีทั้งอันตรายมากและอันตรายน้อย TOC/VOC ไม่ได้มีชนิดเดียวดังนั้นบอกในนี้ได้ไม่หมดวาอันไหนอันตรายบ้าง แต่VOCอันตรายที่ทางการไทยกำหนดมีตามลิ้งด้านล่างนี้ไปศึกษากันได้
http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_toxic/a_tx_2_001c.asp?info_id=120
พี่เปิ้ลบอกว่าวีนิไทยที่แกเคยทำมีเกือบหมด หุหุ
เมื่อร่างกายเรารับสารเข้าไปมากๆเราควรทำอย่างไรถึงจะปลอดภัยและเราจะมีวิธีแก้อย่างไร
ตอบลบทำงานกับสารเคมีก็ป้องกันตัวกันหน่อยนะครับ
ตอบลบพึ่งรู้ว่า VOCs นี้อันตรายขนาดขนาดนี้ ต่อไปนี้ต้องระมัดระวังมากกว่าที่เคยแล้วล่ะ ขอบคุณน้องๆมากเลยนะครับที่ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์สำหรับพวกเรา ขอบคุณมากๆครับ
ตอบลบได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับท่าน...มันเป็นเรื่องใกล้ตัว เราทำงานกับสารเคมีทุกวัน
ตอบลบ...ทำงานระวังกันด้วยนะครับ (อยากได้ผ้าปิดจมูกเหมือน Plant เก่าผมไม่รู้ว่ามีให้เบิกมั้ยครับ พกพาสะดวกดี แต่ใช้ Mass ก็ป้องกันได้ดีมากแต่บางทีตอนเราทำงานจะพูดติดต่อทางวิทยุค่อนข้างลำบาก)
ตอบลบอันตรายขนาดนี้ ต้องป้องกันอย่างเต็มที่ซะแล้ว ลูกยังเล็ก ฮิฮิ...
ตอบลบในการใช้ชีวิตประจำวันเดี๋ยวนี้มีแต่สารเคมีทั้งนั้นเลยนะไม่ว่าการสูดดมอากาศที่เราหายใจเข้าไปไม่รู้ว่าจะมีสารอะไรบ้างชีวิตแสนสั้นนักดูแลสุขภาพกันด้วยนะ
ตอบลบจิตใจและความประพฤติที่สะอาดและมีระเบียบ เป็นรากฐานสำคัญของชีวิตทั้งจิตใจทั้งความประพฤติดังนั้นใช่จะเกิดมีขึ้นเองได้ หากแต่จำต้องฝึกหัดอบรมและสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างจริงจังสม่ำเสมอ นับตั้งแต่บุคคลเกิด ดังที่มนุษย์ไม่ว่าชาติใดภาษาใด ได้เฝ้าพยายามกระทำสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรักษาตัวและมีความสุข ความสำเร็จในการครองชีวิต ทั้งให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ด้วยความผาสุกสงบ
ตอบลบพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว..
อันตรายขนาดนี้เวลาออกปฎิบัติงานต้องป้องกัน หาผ้าปิดจมูก ใส่ตลอดเวลา
ตอบลบแสดงว่า เอส อาร ยู ต้องมีค่า วี โอ ซี มากแน่นนอนเพราะเป็นศนูย์รวมของ Solvant
ตอบลบแต่สุดท้ายแล้วการทำงานก็ต้องมสวมอุปกรณ์ safty
ตอบลบใครรู้ช่วยบอกทีว่าสาร VOCs ร่างกายของคนเรารับได้ขนาดไหนจึงจะมีโทษต่อร่างกายของมนุษย์
ตอบลบเรื่อง voc ของน้องๆนีมีประโยชน์จริงเลยครับ..
ตอบลบแต่พี่อยากถามเรื่อง love อ่ะคับมันคืออะไร
เรารู้ถึงอันตรายเเล้วก็ต้องเรียนรู้วิธีป้องกันด้วยนะครับ
ตอบลบความรุู้นี้ประกอบการเทรนได้ดีมากเลยครับ
ตอบลบแจ่มแจ้งเลยกับอันตรายของ VOCs อีกอย่างรู้วิธีป้องกันที่ถูกต้องอีกด้วย ขอบคุงน้องๆค๊าบ
ตอบลบช่วยให้ระวังตัวมากขึ้นในการทำงาน ในสภาวะที่มี voc
ตอบลบVOC อยู่ไกล้ตัวจริงพึ่งรู้ว่าควันบุหรี่มันก็มีสงสัยต้องเลิกสูบแล้วเรา
ตอบลบ